ปจด.มาวันที่23 ม.ค มีพสพ.แบบไม่ใส่ถุงยางวันที่31 ม.ค. แต่ไม่ได้แตกใน+กินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว วันที่2 ก.พ. ก็มีพสพ.อีกแต่มีแค่ประมาณ2นาทีแบบไม่ใส่ถุงยาง และไม่ได้แตกใน อยากทราบว่าเราสามารถป้องกันไว้ก่อนโดยการที่ใช้ยาฆ่าเชื้ออสุจิหลังมีเพศสัมพันธ์ได้มั้ยคะ

สวัสดีครับ
การใช้ยาฆ่าเชื้ออสุจิต้องทำการใส่ยาเข้าไปในช่องคลอดก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ครับ เพื่อให้ตัวยาทำลายหรือฆ่าเชื้ออสุจิหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ การใส่ในภายหลังอาจไม่ได้ช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ลงครับ อีกทั้งการคุมกำเนิดด้วยวิธีใช้ยาฆ่าอสุจินั้นมีประสิทธิภาพต่ำและยังไม่เป็นที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน การมีเพศสัมพันธ์ของผู้ถามนั้นมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้เพราะการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันถึงแม้ไม่ได้หลั่งภายใน แต่สารคัดหลั่งที่ออกจากอวัยวะเพศชายสามารถพบอสุจิได้ครับ เบื้องต้นแนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดและภายใน 120 ชม.หลังการมีเพศสัมพันธ์ ในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งถัดไปแนะนำให้ใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ครับ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน การฉีดยาคุม การฝังยาคุม เป็นต้น

แนะนำให้รอประจำเดือนมาก่อนแล้วค่อยรับประทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนครับ จะได้แน่ใจว่าไม่มีการรับประทานยาคุมขณะกำลังตั้งครรภ์ครับ ในระหว่างนี้อาจเลือกใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิดไปก่อนครับ

เนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่สูงนัก อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อในช่องคลอด จึงไม่มีการขึ้นทะเบียนและจำหน่ายยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ผสมยาฆ่าเชื้ออสุจิในประเทศไทยในปัจจุบันค่ะ

ในกรณีของผู้ถาม หากต้องการลดความเสี่ยงที่มีอยู่ ก็ควรจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ

และต่อไป ควรใช้วิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน เช่น การใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะถ้าใช้ถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวล

ไม่ควรใช้วิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่ำอย่างการหลั่งนอก หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เพราะเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จ และอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็น

และหลังจากที่รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว หากไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็ควรตรวจให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

“เลือดที่ออกมาหลังจากกินยาคุมฉุกเฉินประมาณ7วัน" ต้องแน่ใจก่อนครับว่าเลือดที่ออกมาไม่ใช่ผลข้างเคียงของการทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน จะทราบได้ว่าเป็นประจำเดือนก็ต่อเมื่อเลือดที่ออกมานี้ใกล้เคียงกับรอบเดือนปกติที่จะมาสม่ำเสมอ นอกจากนี้จำนวนวันที่เลือดออกมา และปริมาณเลือดที่ออกมาต้องใกล้เคียงกับรอบเดือนปกติด้วยครับ หากผู้ถามไม่แน่ใจว่าเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่แนะนำให้ทำการตรวจการตั้งครรภ์ภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ครั้งที่ไม่ปลอดภัยอย่างน้อย 14 วันครับจะได้ทราบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ หากไม่ได้ตั้งครรภ์และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์หลังจากครั้งล่าสุดนี้แล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องทานยาคุมแบบรายเดือนครับ แต่ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ให้พิจารณาเริ่มยาคุมแบบรายเดือนหลังจากที่แน่ใจว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ และทานสม่ำเสมอต่อเนื่องในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ไปตลอดครับ