สวัสดีค่ะ มีอาการดังนี้ค่ะ - ปวดจี๊ดๆ แปล๊บๆ ที่ทวารหนัก เวลานั่งทำงาน - อุจจาระมีเลือดปนมาบางครั้ง - เวลาอุจจาระ ปวดที่ทวารหนัก เหมือนมีอะไรบาด อื่นๆ - อุจจาระ 3-4 วัน ต่อสัปดาห์ - ปวดประจำเดือน 1-2วัน ในขณะมีประจำเดือน (ปวดทุกเดือน) - อายุ 36 ปี ยังไม่แต่งงาน/ไม่มีลูก รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

1.เรื่องปวดก้น น่าจะเป็น แผลรอยเเยกขอบทวารหนัก (Anal fissure) เกิดจากก้อนอุจจาระที่มันแข็งครูดกับผนังทวารหนักตอนเบ่งถ่ายทำให้เกิดแผลขึ้น เวลาถ่ายจะเจ็บก้น อาจมีเลือดปน ลักษณะเลือดที่ออกจะเคลือบไปบนลำอุจจาระครับ
เบื้องต้นควรรักษาเรื่องท้องผูกครับ ปรับเวลาขับถ่าย ดื่มน้ำวันละ6-8เเก้ว กินอาหารที่มีกากใย ผักผลไม้ครับ
ยาโดยทั่วไปเช่น Senokot MOM Lactulose ปรึกษาคุณเภสัชกรครับ เเนะนำพบเเพทย์สาขาศัลยกรรมทั่วไป หรือ ศัลยกรรมทวารหนักครับ

2. หากอาการปวดประจำเดือนเป็นมากจนทำงานไม่ไหว ร่วมกับมีอาการอื่น เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจคิดถึงภาวะปวดประจำเดือนที่มีสาเหตุจำเพาะ(Secondary dysmenorrhea) เช่น เนื้องอกมดลูกจะมีประจำเดือนมามากได้ เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกเเลตซีสต์) เป็นต้นครับ เเนะนำพบสูตินรีเเพทย์ครับ
ยาเเก้ปวดเบื้องต้น เช่น ponstan ครับ

สวัสดีครับ
1. อาการปวดจี๊ดๆ แปล๊บๆที่ทวารหนักร่วมกับมีการถ่ายอุจจาระเป็นเบือดผนออกมา อาจเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลักๆคร้บ คือ
- มีแผลที่ทวารหนัก จากการที่ถ่ายอุจจาระออกมาเป็นก้อนแข็งและมาเสียดสีที่ทวารหนัก
- ริดสีดวงทวาร ในกรณีนี้มักจะมีติ่งเนื้อที่ยื่นเข้าออกจากรูทวารหนักด้วย สาเหตุมักสัมพันธ์กับการเบ่งถ่ายอุจจาระบ่อยๆ
ถ้ามีอาการนี้บ่อยๆ หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์ศีลก็เพื่อตรวจหาสาเหตุและให้การรักษาครับ

2. อาการปวดท้องประจำเดือนเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติครับ เนื่องจากในช่วงที่มีประจำเดือนจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายและมีการกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวขับเอาเบื่อบุโพรงมดลูกออกมา ซึ่งก็สามารถบรรเทาอาการปงดได้โดยการรับประทานยา Ponstan ครับ

แต่ถ้ามีอาการปวดประจำเดือนรุนแรงอยู่บ่อยๆ ก็อาจไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นที่เกี่ยวข้องก่อนได้ เช่น การมีซิสต์ในรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกมดลูก หากพบความผิดปกติก็จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ