February 14, 2020 08:31
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากได้มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องแล้วและไม่มีกแตกรั่ว น้ำที่อยู่นอกถุงยางอนามัยก็จะเป็นเพียวสารคัดหลั่งจากช่องคลอดของฝ่ายหญิงเท่านั้นครับ และในกรณีนี้ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉิน
แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไป หมอก็แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็จะมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถ้าประจำเดือนมาแล้วก็คือไม่ได้มีการตั้งครรภ์ใช่ไหมครับ
แฟนมีประจำเดือนประมาณวันที่ 20 ของทุกเดือนงับ มีเพศสัมพันธ์กันวันที่ 10 แต่ว่าใส่ถุงยางป้องกันปกติแต่ข้างในน้ำน้อยมาก แต่เอาใส่น้ำห้อยทิ้งไว้ 10 นาทีก็ไม่มีอะไรออกมา ตอนเสร็จมีน้ำสีขาวข้างนอกถุงด้วย กินยาคุมฉุกเฉินแล้วเขาไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลยทั้งก่อนและหลังกินยา มีโอกาสท้องไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)