หมอคะเมื่อ3เดือนก่อนมีพสพกับแฟนค่ะใส่ถุงยางซ้ำ2รอบถุงไม่ขาดไม่รั่วค่ะไม่ได้กินยาคุมค่ะแล้วประจำเดือนก็มาแล้ว2เดือนแต่เดือนนี้ยังไม่มาเลยค่ะแต่เมื่อ4-5วันก่อนมีเลือดออกสีแดงชมพูๆเป็นเมือกค่ะมีอาการปวดท้องข้างขวาค่ะหนูไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่หรือเป็นเพราะท้องคะเพราะหนูเคยมีประวัติลำไส้ใหญ่อักเสบค่ะเกี่ยวกันไหมคะที่ทำให้ปวดท้องข้างขวาแล้วมีโอกาสท้องไหมคะหนูกังวลมากๆค่ะ

1.ถ้าตั้งเเต่ครั้งสุดท้ายที่มีเพศสัมพันธ์สามเดือนก่อน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีก ตัดเรื่องท้องออกไปได้เลยครับ เพราะประจำเดือนหลังจากนั้นมาเเล้ว เเสดงว่าไม่ท้องครับ
(เเต่ถ้าเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ไป อันนี้มีโอกาสท้อง ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อประจำเดือนขาด หรือ 14วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ)

2.4-5วันก่อนที่เลือดออก ถ้ายังอยู่ในช่วงไม่เกิน7วันจากรอบเดือนปกติ ก็เป็นประจำเดือนได้นะครับ เพราะปกติประจำเดือนมาเร็วมาช้าได้บวกลบ7วันครับ
สังเกตอาการ ถ้าประจำเดือนขาดหลายๆเดือน ควรพบสูตินรีเเพทย์ครับ (ถ้ากังวล ก็ตรวจการตั้งครรภ์ได้ครับ)

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยซ้ำมีโอกาสที่จะทำให้ผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ง่ายครับ แต่ถ้าหากได้มีประจำเดือนมาปกติครั้งหนึ่งแล้วหลังจากมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ควรที่จะมีการตั้งครรภ์ครับ แต่ทั้งนี้ก็อาจลองตรวจการตั่งครรภ์ยืนยันก่อนได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
ซึ่งในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

ส่วนอาการปวดท้องนั้นอาจสัมพันธ์กับการมีลำไส้อักเสบหรือการขาดประจำเดือนหรือไม่ก็ได้ ในส่วนนี้หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนเช่นกันครับ