January 04, 2020 16:31
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสวมใส่ถุงยางอนามัยด้วยแล้วจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2-18% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความถูกต้องของการใช้งานโดยไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ และต่อให้มีน้ำหล่อลื่นติดอยู่ภายนอกในขณะที่ใส่ถุงยางอนามัยอสุจิก็มักจะมีการเสื่อมสภาพไปแล้วเมื่อสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มากครับ
แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจจริงๆ ก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
การป้องกันการตั้งครรภ์โดยใช้ถุงยางอนามัย หากใช้อย่างถูกวิธีสามารถป้องกันได้ถึง 98% ครับ แล้วการที่น้ำหล่อลื่นเพียงเล็กน้อยติดมือก่อนที่จะไปจับถุงยางอนามัยนั้นมีโอกาสน้อยครับที่จะทำให้ตั้งครรภ์ ส่วนเรื่องที่ผู้ถามทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินอาจมีผลข้างเคียงพบว่ามีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ครับ ซึ่งจะเกิดประมาณช่วง 1 สัปดาห์หลังทานครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันธ์ตอนประจำเดือนมาวันที่ 3 แต่ไม่ได้เข้าลึกมาก แค่ส่วนหัวเพราะเจ็บ ประจำเดือนมาเยอะ 3 วันแรก แต่หลังจากมีเพศสัมพันธ์ก็มาน้อยลง ใส่ถุงยางนะคะ ลองใส่น้ำตอนถอดก็ไม่ขาดไม่รั่ว แต่กังวลว่าตอนใส่ถุงยางให้แฟน มือเราอาจจะไม่สะอาดคือก่อนหน้าใส่ถุง มือไปจับโดนน้ำหล่อลื่นแฟนแล้วกังวลว่าโดนภายนอกถุงยางแล้วมาสอดใส่จะเสี่ยงตั้งครรภ์มากมั้ยคะ และหลังจากนั้น 6 ชมจึงทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)