มีเพศสัมพันธุ์กับแฟนหลายครั้งครับ ใส่ถุงทุกครั้งครับ มีเพศสัมพันธ์ในวันตกไข่1ครั้งครับ ใส่ถุงยาง แต่ประจำเดือนยังไม่มาครับคลาดเคลื่อนไป6วันแล้วครับ มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมครับ แล้วป้องกันทันไหมครับ

สวัสดีครับ
ถ้าได้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องแล้วระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2% เท่านั้นครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนมาช้ากว่าปกติก็สามารถลองตรวจการตั้งตครรภ์ยืนยันให้แน่ใจได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

สวัสดีค่ะ

ถ้าใส่ถุงยางอนามัยโดยไม่มีถุงยางขาด โอกาสตั้งครรภ์มีเพียง 2%ค่ะ แต่ถ้าถุงยางขาดหรือไม่แน่ใจต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% และสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านมาแล้ว 14 วันค่ะ กรณีตรวจแล้วไม่ตั้งครรภ์อาจคิดถึงจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ฮอร์โมนแปรปรวน ความเครียด PCOS เนื้องอก เป็นต้น ซึ่งถ้าประจำเดือนขาดนานเกิน 3 เดือนให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจค่ะ

โดยทั่วไปโอกาสผิดพลาดจากการใส่ถุงยางอนามัยมีโอกาสท้องเพียงแค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะคะทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าใช้ได้อย่างถูกวิธีและถุงยางไม่รั่วหรือฉีกขาดหรือไม่ร่วมด้วยค่ะ

ส่วนเรื่องของการที่มีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตกจริงหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายหญิงด้วยค่ะว่าปกติมีประจำเดือนสม่ำเสมอดีทำให้มีการตกไข่ช่วงนั้นจริงหรือไม่ซึ่งการที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนก็เช่นกันค่ะ คือต้องดูว่าเดิมอาจมีรอบเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ หรือมีความเครียด ออกกำลังกายมากเกินไป หรือเป็นโรคอื่นๆทางกายที่อาจต้องตรวจกับหมอสูตินารีแพทย์ค่ะ

ทั้งนี้หากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดถึง 14 วันแล้วสามารถทดสอบการตั้งครรภ์โดยการตรวจปัสสาวะได้ค่ะโดยให้ใช้ปัสสาวะในช่วงเช้าจะให้ผลที่แม่นยำที่สุด

ส่วนเรื่องการป้องกันโดยส่วนใหญ่หากไม่ได้มีการใช้ยาคุมกำเนิดมาก่อนและมีเพศสัมพันธ์อาจจะต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินแต่จะมีประสิทธิภาพเมื่อรีบรับประทานโดยอย่างช้าสุดไม่เกิน 120 ชั่วโมงค่ะ

ถ้าเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ก็จะต้องเริ่มนับ 14 วันจากเมื่อวานนี้ครับ นั่นคือจะเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ได้โดยใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าของวันที่ 4 เมษายนครับ

การรับประทานยาแก้ท่อปัสสาวะอักเสบไม่มีผลต่อการมีประจำเดือนครับ