May 12, 2020 13:31
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
1. อาการเลือดออกผิดปกติหลังมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการบาดเจ็บในช่องคลอดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกบางอย่าง
ซึ่งถ้ามีเชือดออกผิดปกติแบบนี้บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในหาสาเหตุครับ
2. โอกาสตั้งครรภ์ในกรณีที่มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องแล้วจะอยู่ที่ 2% ครับ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปหมอแนะนำว่าควรตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ 1.ในวันที่2กพ ได้มีเพศสัมพันธ์(ป้องกันใส่ถุง)แต่ว่าในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งนั้นรู้สึกจุกอย่างมาก รู้สึกปวดท้องน้อย เดินหรือยืนไม่ค่อยได้เป็นเวลา2วันเต็มๆแล้วก็หาย ประจำเดือนมาปกติ จากนั้นก็ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแต่ว่าก็ได้มีน้ำสีน้ำตาลออกมาจากช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์เสร็จ(ซึ่งพ้นจากการมีประจำเดือนประมาณ2อาทิตย์) จากนั้นประจำเดือนก็มาปกติ 2.หลังจากข้อ1ประมาณ3เดือนคือว่ามีเพศสัมพันธ์กับแฟนเมื่อวันที่25มีนาแบบใส่ถุง แล้วมีประจำเดือนในวันที่9เมษามาปกติเลยค่ะ(ปกติมา7วัน) หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย แต่ในเดือนพฤษภาประจำเดือนก็ยังไม่มาเลยค่ะ (ตอนนี้33วันแล้วค่ะที่ประจำเดือนไม่มา) ❓❓อยากทราบว่าจะท้องรึเปล่าคะ ถ้าไม่ท้องอยากทราบว่าเกิดมาจากสาเหตุอะไร แล้วจากข้อ1 จะมีอันตรายอะไรรึเปล่าคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)