เป็นฝีมะม่วงสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้มั้ยคะ หากดื่มจะส่งผลอะไรบ้างคะ

การดูแลตัวเองเมื่อเป็นฝีมะม่วง ควรรีบไปพบแพทย์ทานยาตามที่หมอสั่งเพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา หากมีอาการปวดมากสามารถทานยาบรรเทาปวด ดื่มน้ำมากๆอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และประคบอุ่นบริเวณที่ปวด บวม เเดง โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น บิดผ้าให้แห้ง วางบนตำแหน่งที่ปวดประมาณครั้งละ 10-15 นาที ทำได้บ่อยทุก 8 ชั่วโมง ค่ะ

ควรจะหลีกเลี่ยงครับ และควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพท์กำหนดครับ เพราะโรคกลุ่มนี้มักเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ อีกทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ย่อมส่งผลต่อสุขภาพอยู่แล้วครับ อาจจะไม่ส่งผลโดยตรงกับโรคมากเท่าไหร่ แต่จะส่งผลทางอ้อมครับ เช่น ทำลายเซลล์ตับ ซึ่งยาหลายๆตัวมักจะต้องผ่านกระบวนการทำลายหรือขับออกจากร่างกายผ่านตับ เป็นต้นครับ ซึ่งกระบวนการตรงนี้จะสะสมทีละเล็กทีละน้อยไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำคิดว่า ไม่เป็นไร หรือไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ มักจะเข้าโรงพยาบาลอีกทีก็คืออาการหนักแล้ว เซลล์ตับถูกทำลายไปมาก ไม่สามารถทำให้กลับมเาป็นเหมือนเดิมได้เป็นต้น

ฝีมะม่วง หรือ Lymphogranuloma Venereum คือ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อ Chlamydia Trachomatis มักเกิดการติดเชื้อที่อวัยวะสืบพันธุ์หรือทวารหนัก โดยจะมีต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณขาหนีบข้างใดข้างหนึ่ง โดยจะเกิดตุ่มหรือแผลที่อวัยวะเพศก่อน หลังจากนั้นต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบจะอักเสบ ทำให้เกิดอาการปวดบวมและอักเสบตามมา หรือถ้าเกิดที่ทวารหนักก็อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายอุจจาระได้ ถ้าผู้หญิงที่ป่วยเป็นฝีมะม่วงก็อาจจะทำให้อุ้งเชิงกรานอักเสบ ส่งผลให้ท้องนอกมดลูกได้ หรือปวดท้องน้อยเรื้อรัง รวมทั้งประสบภาวะมีบุตรยากได้เป็นต้นครับ ส่วนวิธีการรักษาจะมีการใช้ยาและการผ่าตัดบริเวณที่เป็นฝีเพื่อบรรเทาอาการครับ หากใช้ยารับประทานมักจะต้องรับประทานประมาณ 3 สัปดาห์ครับ ทั้งีน้ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ความรุนแรงของโรค ภาวะแทรกซ้อนของโรค เป็นต้น และไม่ทราบว่าได้ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ด้วยหรอืไม่ครับ เช่น HIV ซิฟิลิส ??