January 19, 2020 16:31
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.เรื่องท้องผูก เเละ ริดสีดวงสามารถดูเเลด้วยตนเองเบื้องต้น
ได้แก่ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเพิ่มความดันในนื้อเยื่อหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวารครับ
- ดูเเลตัวเองไม่ให้ท้องผูก โดยควรรับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะละกอสุก ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มและขับถ่ายออกได้ง่าย ถ้ายังมีอาการท้องผูกอีกให้ปรึกษาเภสัชกร กินยาระบาย เช่น ยาระบายแมกนีเซียม(MOM)ครับ
- ฝึกขับถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา เข่น พยายามถ่ายทุกเช้า หลีกเลี่ยงการนั่งเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงการยืน การเดิน และการนั่งแช่เป็นเวลานาน ๆ พยายามฝึกไม่เบ่งอุจจาระ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะทำให้โรคริดสีดวงทวารเป็นมากขึ้นได้ครับ
- เมื่ออุจจาระหรือปัสสาวะเสร็จ ควรล้างก้นด้วยน้ำอุ่น ๆ หรือน้ำสะอาด พยายามรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ แต่ถ้าอยากใช้สบู่ ก็ควรเป็นสบู่เด็กอ่อนเพื่อลดการระคายเคืองของหัวริดสีดวงที่กำลังบวมหรือมีการอักเสบอยู่ (ไม่ควรทำความสะอาดด้วยกระดาษชำระแบบแข็ง แต่ควรใช้วิธีชุบน้ำ หรือใช้กระดาษชำระชนิดเปียกแทนครับ)
- ถ้าเดิมหัวริดสีดวงอยู่ข้างใน เเล้วหัวริดสีดวงหลุดออกมาข้างนอก ให้ใส่ถุงมือแล้วใช้ปลายนิ้วชุบสบู่ให้หล่อลื่น แล้วดันหัวกลับเข้าไปใหม่ ซึ่งจะช่วยได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้ผล แนะนำให้ไปพบแพทย์สาขาศัลยกรรมทั่วไปหรือศัลยกรรมทวารหนักครับ
- เมื่ออาการต่างๆเเย่ลง เช่น เมื่อมีเลือดออกทางก้นไม่หยุดหรือเมื่อหัวริดสีดวงไม่สามารถกลับเข้าไปในทวารได้ (อย่าพยายามออกแรงดันหัวริดสีดวงมากจนเกินไป เพราะจะทำให้หัวริดสีดวงได้รับบาดเจ็บและบวมมากขึ้น) ควรพบเเพทย์เช่นกันครับ
ถ้าเป็นน้อยๆ กินยาเช่น Daflon ร่วมกับปรับพฤติกรรม บางคนเป็นมากต้องผ่าตัดครับ
2.เรื่องภาวะกรดไหลย้อน
คือมี จุกแน่นลิ้นปี่ เรอเปรี้ยว เเสบร้อนหน้าอก เป็นมากเวลากินเสร็จเเล้วนอนทันที ถ้าอาการประมาณนี้น่าจะใช่ครับ เบื้องต้นปรึกษาเภสัชกรเรื่องยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะ เช่น Omeprazole gaviscon domperidone gasmotin gastrobismol เป็นต้นครับ ถ้าไม่ดีขึ้น ให้พบเเพทย์ครับ (สาเหตุจาก หูรูดบริเวณกระเพาะอาหารไม่ดีครับ)
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ที่สามารถทำให้โรคกรดไหลย้อนดีขึ้นได้
- การนอนยกหัวให้สูงขึ้น ประมาณ 6-8 นิ้ว หรือ 15 เซนติเมตร ประมาณหมอน1-2ใบครับ จะช่วยบรรเทาอาการได้โดยเฉพาะคนที่มีอาการมากในเวลากลางคืน
- การนอนตะแคงด้านซ้าย จะเกิดอาการได้น้อยกว่านอนหงายหรือนอนตะแคงขวาครับ
- หลีกเลี่ยงการนอนหลังรับประทานอาหารทันที ควรเว้นเวลาหลังมื้ออาหารประมาณ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ ให้ทานอาหารทีละน้อย ๆ แต่เพิ่มจำนวนมื้อได้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการได้ เช่น อาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด ชา กาแฟ chocolate มะเขือเทศ หัวหอม กระเทียม มินต์
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และงดสูบบุหรี่
- ลดน้ำหนัก
- หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้า กางเกงที่รัดแน่นเกินไปครับ
การที่เป็นกรดไหลย้อนไม่หายนานๆ อาจทำให้หลอดอาหาร โดนกรดจากกระเพาะบ่อยๆมีโอกาสเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ครับ (ต้องมีกรดไหลย้อนไม่ได้รักษาหลายปีจริงๆ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แล้วเวลาทานอะไร แล้วลิ้นหนาขาว อาหารติดลิ้นเกิดจากอะไรคะ
สวัสดีคะ คุณหมอ หนูอายุ23คะ ปกติเป็นคนท้องผูก 3-7วันถ่ายครั้งนึง ถ่ายเป็นก้อนแข็งรวมกัน สีน้ำตาลปนเหลือง ถ่ายครั้งนึงแสบทวารมีเลือดซิบ ประมาณ4-5ครั้ง ..แล้วเพิ่งจะมาสังเกตว่าเป็นริดสีดวงทวารมีติ่งยื่นออกมา ไม่เจ็บ แล้วหลังจากนั้นถ่ายเป็นเม็ดๆเหมือนกระสุน เวลาถ่ายแสบๆรูทวารเวลาทานเผ็ด แต่ไม่มีเลือด เคยปวดหน่วงๆรูทวาร1ครั้ง ..แล้วมาเป็นกรดไหลย้อนอีก ตื่นเช้า ขมปาก เหมือนจุกตรงลิ้นปี่ กลางหน้าอก เรอ ผายลม ...ลิ้นขาวคะแต่ไม่มาก มีเสมหะในคอตลอดเวลา...จะเป็นอะไรไหมคะกลัวคะ เครียดคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)