ปกติรอบประจำเดือนจะมา ใน 32 วันค่ะ ละจะมาประมาน 5-6 วันค่ะ แต่เดือนที่ผ่านมา ในวันที่4 ได้กินยาคุมไปค่ะ แล้วได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟน กินยาคุมไปได้ประมาน 8 วันค่ะ แล้วหยุดกิน ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาค่ะ เลยมา 4 วันแล้ว ใช้ที่ตรวจครรภ์ก็ไม่ขึ้นว่ามีครรภ์ค่ะ

สวัสดีครับ
เนื่องจากได้รับประทานยาคุมต่อเนื่องไปอย่างน้อย 7 วันแล้วก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมจึงออกฤทธิ์ป้องกันการตั้วครรภ์ได้เต็มที่แล้ว ในกรณีนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ เพราะจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-9% เท่านั้น ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมาครับ

ส่วนเรื่องประจำเดือนไม่มาหมอต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนครับ
- รับประทานยาคุมยี่ห้ออะไร
- หยุดรับประทานยาวันที่เท่าไหร่
- หยุดตอนรับประทานยาเม็ดที่เท่าไหร่

- โดยปกติ ประจำเดือนจะมาเร็วมาช้าได้ประมาณ 7 วันครับ ถ้าเครียดกังวล ก็มาช้ากว่านั้นได้ครับ
- ถ้ากินยาคุม ภายใน1-5 วันเเรกของการมีประจำเดือนนั้น ยามีผลคุมกำเนิดเได้เลยนะครับ โอกาสท้องนั้นน้อยมากครับ เเละถ้ามีเพศสัมพันธ์ช่วงกินยาอยู่ โอกาสท้องก็น้อยเช่นกัน
เเต่ถ้าไม่ได้เริ่มกินยาช่วงมีประจำเดือน ก็มีโอกาสหลุดท้องครับ
- ดังนั้น ถ้ามีเพศสัมพันธ์เกิน14วันเเล้ว สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ครับ
ถ้าตรวจเเล้วไม่ท้อง ก็เว้นสักสัปดาห์เเล้วตรวจซ้ำ
ถ้าตรวจเเล้วไม่ท้องจริงๆ เเต่ประจำเดือนยังขาดเป็นเดือนๆ ควรพบสูตินรีเเพทย์ตรวจหาสาเหตุครับ

จากข้อมที่เพิ่มมาเนื่องจากมีการหยุดรับประทานยาคุมไปตั้งแต่ยาคุมเม็ดที่ 7 ในกรณีนี้จึงอาจทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไม่ต่อเนื่องได้นะครับ ดังนั้นในกรณีนี้จึงต้องมีการตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนเพื่อให้แน่ใจนะครับ คือ ให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ เพื่อให้ได้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากไม่มีการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆครับ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด - น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
ซึ่งในกรณีนี้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนครับ

จากที่เล่ามานั้นมีการหยุดรับประทานยาคุมไปในระหว่างแผงทำให้ฮอร์โมนอาจมีการแปรปรวนและทำให้บอกได้ไม่ชัดเจนว่าเลือดที่ออกมาคือประจำเดือนหรือไม่ครับ ดังนั้นถ้าจะให้มั่นใจจริงๆหมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ตามช่วงเวลาที่หมอแนะนำไปก่อนจะดีที่สุดครับ