December 30, 2019 20:22
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนก็ควรจะมาตากำหนดประจำเดือนปกติอยู่ครับ หรือถ้าประจำเดือนจะมีการคลาดเคลื่อนก็มักไม่คลาดเคลื่อนไปเกิน 4-5 วัน ถ้าหากประจำเดือนไม่ได้มาในช่วงเวลานี้เลือดที่ออกมาก็อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินซึ่งไม่ใช่ประจำเดือนได้ครับ
ในกรณีที่ยังไม่มีประจำเดือนมาตามปกติเลยหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ที่รับประทานยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนในรอบที่ใช้ยามาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ และยาคุมฉุกเฉินแทบจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประจำเดือนในรอบถัด ๆ ไปเลยนะคะ
ซึ่งประจำเดือนปกติ ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน
แต่หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ผู้ใช้บางรายอาจมีหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานค่ะ เลือดกะปริบกะปรอยที่ออกมานี้คือผลข้างเคียงจากยา ไม่ใช่ประจำเดือน อาจพบ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร
ดังนั้น ถ้าเลือดที่ออกมาล่าสุดเป็นเพียงเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่นะคะ จึงต้องรอดูไปก่อนว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือเปล่า
และถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลใจ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ
แต่ถ้าเลือดที่ออกมาล่าสุด ซึ่งผู้ถามให้ข้อมูลว่ามาก่อนรอบปกติ มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย และมาคลาดเคลื่อนจากวันที่คาดไว้เพียงเล็กน้อย ก็น่าจะเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบ ซึ่งเมื่อมีประจำเดือนมาแล้วก็ถือว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ และถ้าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อีก ประจำเดือนในรอบต่อไปก็ควรจะมาตามรอบปกติเดิมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เเต่ปกติเเฟนผมเขาประจำเดือนมาไม่ค่อยตรงกันทุกเดือนอยู่เเล้วอะครับส่วนมาก ฮอโมนส์ผู้ชายเยอะ เเล้วก็ต้องกินยาเร่งให้เมนส์มาด้วยอะครับ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าเช่นนั้น...
1. แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อความชัดเจนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่นะคะ
2. แม้จะไม่ตั้งครรภ์ แต่ประจำเดือนของแฟนผู้ถามอาจคลาดเคลื่อนได้มากตามที่เคยเป็น ไม่ว่าจะมีการใช้ยาคุมฉุกเฉินหรือไม่ก็ตาม จึงคาดการณ์ไม่ได้ว่าประจำเดือนรอบต่อไปควรจะมาเมื่อไหร่ค่ะ
3. ถ้าไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติเรื่อย ๆ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากเดิมแฟนมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่แล้วก็เป็นการยากที่จะบอกได้ว่าประจำเดือนจะมาอีกครั้งเมื่อไหร่ และคงบอกได้ยากว่าเลือดที่ออกมาก่อนหน้านี้ใช่ประจำเดือนหรือไม่ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากความผิดปกติของประจำเดือนที่มีอยู่เดิม โดยอาจมีสาเหตุได้จาก
- ความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย
- การตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ แต่หมอไม่แนะนำให้ซื้อยาใดๆมารับประทานเองเนื่องจากอาจเป็นการรักษาที่ไม่ถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
ประจำเดือนในรอบถัดไปอาจมาช้าหรือเร็วกว่ารอบปกติของประจำเดือนได้ครับ แต่ไม่ควรช้า หรือ เร็วกว่าปกติ เกิน7วันครับ
หากประจำเดือนมา ทุกเดือน ไม่จำเป็นต้องทานยาเร่งให้ประจำเดือนมาครับ
แต่หากประจำเดือนมาผิดปกติ ไม่ตรงรอบและมีอาการปวดประจำเดือน หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ อาจไปพบแพทย์ และทานพิจารณาทานยาปรับฮอร์โมนได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือว่าให้เเฟนกินยาคุมฉุกเฉินเเล้วประจำเดือนมาเเล้ว(มาก่อนรอบปกติ) เเล้วอีกรอบนึงมันจะมาตรงกับวันที่เรากินยาคุม หรือมาตรงกับวันที่มาปกติครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)