July 31, 2018 12:59
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
บางครั้งอาการของผู้ป่วยแต่ละรายจะมีระดับความรุนแรงของอาการแตกต่างกัน และในแต่ละรายร่างกายตอบสนองต่อยาต่างกัน และขึ้นอยู่กับตัวกระตุ้นอื่นๆที่อาจส่งผลให้อาการแย่ลง เช่น ความเครียด การปรับตัวต่อปัญหาที่เข้ามาของแต่ละคนด้วย บางรายร่างกายตอบสนองต่อยาได้ดี มีการปรับตัวต่อปัญหาได้ดี ก็ใช้ระยะเวลาในการรักษาไม่นานค่ะ แต่บางรายอาจใช้เวลาในการรักษานานกว่า 6 เดือนก็มีค่ะ
ส่วนการปรับลดยาเอง อาจทำให้อาการกำเริบซ้ำได้ ดังนั้น ในกรณีนี้แนะนำให้ทานยาตามคำสั่งแพทย์ไปก่อน หากมีอาการผิดปกติรุนแรงมากก็ต้องกลับไปพบจิตแพทย์ให้คุณหมอปรับยาให้เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แต่เดิมเคยเขียนปรึกษาเรื่องอาการนอนไม่หลับ-ใจสั่นมาก มาครั้งนึง นานเป็นปีแล้วค่ะ ผลจากตอนนั้นได้ไปหาหมอจิตแพทย์ สรุปว่าเป็น anxiety disorder (ไม่ใช่panic) ค่ะ.. แต่ ปห ที่ค้างคาใจจนถึงตอนนี้ เพราะพอดีว่าคุณหมอท่านที่หาอยู่ ท่านไม่ค่อยพูดค่ะ ถามไรไปไม่ค่อยได้คำตอบที่ชัดเจน เลยยิ่งกลุ้มใจ .. คือประเด็นเกี่ยวกับการกินยาค่ะ ดิฉันได้ทานยา lorazepam มานานประมาณ1ปีแล้วค่ะ (เริ่มแรก1mg. ต่อมา 0.5 จนถึงปัจจุบันที่ทานอยู่) มีอยู่ช่วงนึงรู้สึกเหมือนดีขึ้นจึงลองพยามค่อยๆลดยาเอง เช่น กินวันเว้นวัน ทำแบบนี้อยู่เป็นเดือนค่ะโดนแอบหวังว่าสักวันจะเลิกยาได้ แต่บางทีอาการทึ่เกิดขึ้น คือ ใจสั่นมาก ใจหวิว ร่างกายหวิวๆแปลกๆ ปวดเมื่อยตามตัวบางที ส่วนเรื่องนอนมันก็มีทั้งวันที่ง่วงนอนได้เอง หรือบางวันก็นอนไม่ค่อยหลับตามที่เคยเป็นค่ะ(ระหว่างที่อาการเหล่านี้มีเยอะขึ้นตามมา ก็ได้ยาอีกตัวมาทานเพิ่มค่ะ คือ propanolol เพื่อลดใจสั่นที่เป็นเยอะ แทบตลอดทั้งวัน และยิ่งเวลานอนความรู้สึกสั่นมันกระทบในร่างกาย มันรบกวนการใช้ชีวิตและการนอนมากค่ะ) จากอาการที่ดิฉันเป็นมันทำให้ตัวเองสับสนว่า จริงๆแล้วเป็นเพราะอะไรกันแน่? 1.ผลจากอาการถอนยา หรือ 2. เป็นเพราะโรคยังไม่หายยังต้องกินยาอยู่ 3. เป็นเพราะขนาดยา 0.5 ที่กินอยู่ต่ำเกินไปไหม แต่ทั้งหมดก็วกกลัลมาในความคิดว่าอยากเลิกยาแล้วค่ะ ไม่อยากกินต่อเนื่องนานๆขนาดนี้ ดิฉันหาข้อมูลตามเว๊ยไซด์มาเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนในข้อที่สงสัยพวกนี้ ☆ถ้าทั้งหมดเป็นเพราะอาการถอนยา ดิฉันควรจะไม่ยอมแพ้ ค่อยๆอดทนต่อไปในการค่อยๆลดยาไปเรื่อยๆดีไหมคะ (เริ่มจากวันเว้นวัน เว้น2วัน...เคยทำมาแล้วแต่ยังไม่สำเร็จค่ะ) ☆หรือถ้าเป็นเพราะยังต้องกินยาไปอยู่อีกเรื่อยๆ ดิฉันแค่งงว่าในรายละเอียดของยารักษากันนานๆก็ 3-6 เดือน แต่นี่เป็นปีๆแล้วค่ะ มันยังกินได้อยู่ใช่ไหมคะ จะอันตรายมีผลต่อร่างกายไหม แล้วอาการติดยา ดิฉันจะต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ในการค่อยๆลดค่อยๆถอนยา แล้วเจออาการถอนยาที่เป็นอยู่อีกไหมคะ? มันค่อนข้างทรมานมาก (บางทีรู้สึก้หมือนตัวเองขี้ลืมง่ายมากกว่าปกติ กินต่อไปมากๆๆหลายปี จะเป็นอับไซเมอร์ไหมคะ) ☆สมมุติถ้าเป็นเพราะขนาดยาต่ำเกินไป ต้องกลับมากินที่1mg.แบบนี้ ต่อไปถ้ากินนานๆแล้วดื้อยาแล้วก็ต้องปรับโดสสูงขึ้นอีกใช่ไหมคะ แต่ทั้งหมดก็จะย้อนกลับมาในความคิดว่าเมื่อไรจะเลิกยาได้ อาการใจสั่น กระวนกระวายที่เป็นอยู่มันเกิดจากอะไรกันแน่ค่ะ? ☆ขอเพิ่มอีกข้อนะคะ ยาbeta blockerต่างๆที่ได้มา ทานไปนานๆเข้าจะติดยาเหมือนกับพวก Bzdp ไหมคะ ตอนนี้จะพยามทานแค่เฉพาะตอนมีอาการ แต่อาการก็ดันมาเป็นแทบทั้งวัน(ทั้งที่ไม่ได้กังวลอะไรนะคะ มันเป็นขึ้นมาเอง และเริ่มตกใจง่ายมาก ตอนเช้าเคลิ้มๆถ้ามีเสียงอะไรนิดเดัยวสะดุ้งขึ้นมา ใจสั่นมากค่ะ) เลยยิ่งกลัวว่าต้องกินbeta blockerไปนานแค่ไหนค่ะ? ☆ปกติแล้ว สถิติผู้ป่วยที่ได้รับยาเหล่านี้ แบบที่กินกันมานานเป็นปีๆ มีไหมคะ แล้วพวกเค้าเลิกได้ไหม ขออภัยที่เขียนยาวมากเลยค่ะ ดิฉันอยากได้รับคำตอบเพื่อจะได้สบายใจ หายสงสัย และอยากได้คำแนะนำว่าควรตัดสินใจยังไงต่อไปกับการกินยาพวกนี้ค่ะ กลัวว่าถ้ากลับมาเริ่มกินต่อเนื่องอีก ต่อไปจะเริ่มหยุดยังไง เพราะจากที่ผ่านมาเห็นเองแล้วว่าจะถอนยายากมากค่ะ วิธีการค่อยๆลดยาของดิฉันทำถูกไหมคะ (แต่หมอคนที่หาอยู่ เค้าก็อนุญาตให้ลดยาแบบนี้ค่ะ) ขอบพระคุณมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)