February 19, 2020 21:36
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากหลังรับประทานยาเลื่อนประจำเดือนแล้วมีผลทำให้มีเลือดออกมามากผิดปกติ ก็มีความเป็นไปได้ว่าฮอร์โมนในยาเลื่อนประจำเดือนอาจมีส่วนให้เกิดอาการในลักษณะนี้ครับ
อย่างไรก็ตามการมีเลือดออกผิดปกติในปริมาณมากและนานกว่าปกติก็ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีก เช่น
- มีการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ
- มีแผลในช่องคลอด
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกหรือมะเร็งบางชนิด
เป็นต้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรกลับไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการใหม่อีกครั้งก่อน ถ้าหากตรวจพบความผิดปกติก็จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ แต่ถ้าหากตรวจพบว่าเป็นเพียงผลจากฮอร์โมนของยาคุมเท่านั้นก็อาจใช้การรับประทานยาเพื่อปรับฮอร์โมนใหม่ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ประจำเดือนมานานกว่าปกติค่ะ ตอนนี้ฝังยาคุมกำเนิดชนิด5ปี ช่วงเดือนธันวาที่ผ่านมามีการทานยาเลื่อนประจำเดือน พอมกราประจำเดือนมาก็มาจนถึงตอนนี้เดือนกว่าๆแล้วค่ะ อยากทราบว่าทำอย่างไรได้บ้างคะ ตอนนี้ฝังยาคุมเข้าปีที่3แล้วค่ะเคยที่ผ่านมาก็มีเลือดออกกระปนิบกระปรอยมาโดยตลอดค่ะ บางเดือนก็มานาน มาบ่อยค่ะ เคยหาหมอตรวจภายใน pap smear ผลปกติค่ะ แต่ไม่เคยได้ยาปรับฮอร์โมนใดๆมาทานหมอบอกว่าเป็นผลจากการฝังยาค่ะ แต่ตอนนี้อยากทราบว่าการที่ประจำเดือนมานานขนาดนี้เป็นเพราะกินยาเลื่อนประจำเดือนหรือเปล่าคะแล้วสามารถหายามาทานเองได้ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)