การที่เราปวดหัวบ่อยๆ เกิดจากสาเหตุอะไรบ้างค่ะ

ปวดหัวส่วนใหญ่ไม่มีสาเหตุชัดเจนครับ แต่หากปวดมากขึ้น รุนแรงขึ้น นานขึ้น ต้องระวังว่าอาจจะมีรอยโรคในสมอง แนะนำปรึกษาแพทย์เพือ่ตรวจเพิ่มเติม

อาการปวดหัวบ่อยๆ เกิดได้หลายสาเหตุมากครับ สาเหตุที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ เป็นเพียงอาการเบื้องต้นที่มักพบบ่อยและเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น โดยยังคงแนะนำให้ไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดครับ
สาเหตุหลักๆ
1) Tension type headache
มักมีอาการปวดหัวตื้อๆ (non pulsatile หรือไม่ตุ๊บๆเป็นจังหวะ) โดยส่วนมากเป็นทั้งสองข้างครับ และมักเกิดจากกล้ามเนื้อทำงานหนักจากท่าเดิมตลอด จึงทำใหเกิดการหดตัวและหดเกร็งเกิดเป็น trigger zone วิธีการรักษาอาจใช้ยารับประทานแก้ปวดหรือคลายกล้ามเนื้อได้ แต่วิธีที่ได้ผลอีกวิธีคือกดบริเวณที่กล้ามเนื้อหดรัด นิ่ง เน้น หน่วง เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวครับ
2) Frontal sinusitis
อาการปวดจากไซนัสอักเสบ โดยส่วนมากจะปวดมากครับ โดยเฉพาะเวลาล้มต้วลงนอน และมักปวดเด่นบริเวณกระบอกตาทั้งแถบ สัมพันธ์กับอาการคัดจมูก
3) Medication induced headache
ในฐานะเภสัชกรคงไม่พูดประเด็นนี้ไม่ได้ เพราะอาการปวดหัวที่เจอได้บ่อยอีกสาเหตุหนึ่ง คือเกิดจากการกินยาแก้ปวดทุกวันครับ จนร่างกายไม่สามารถใช้ขนาดยาปกติได้ ต้องเพิ่มขนาดยาให้สูงขึ้นเพื่อระงับอาการปวด หากคุณผู้ถามมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่แนะนำให้พบคุณหมอหรือเภสัชกรนะครับ
4) Acute severe hypertension
เกิดขึ้นได้เวลาความดันโลหิตสูงมากๆ ตามเกณฑ์คือ SBP>210 mmHg แต่สำหรับผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องถึงก็ได้ครับ เพราะมีหลายเคสที่ความดันโลหิต 180 mmHg แต่ก็ปวดหัวมาก การรักษาคือการใช้ยาลดความดันโลหิตโดยแพทย์ครับ
5) Migraine
มักมีลักษณะปวดแบบตุ๊บๆตามการเต้นของหัวใจ (throbbing) สามารถปวดได้ทั้งสองข้างครับ ไม่จำเป็นต้องปวดข้างเดียวเสมอไป และอาจมีอาการอื่นๆร่วม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน กลัวเสียง กลัวแสง โดยไมเกรนเป็นโรคที่ฮิตมาก ผมจึงอยากพูดถึงเป็นตัวสุดท้าย เพราะหลายๆคนเวลาเดินมาร้านยาชอบมาขอยาแก้ปวดหัวไมเกรนเลย แต่หากพิจารณาอาการประกอบ หลายคนครับที่อาการไม่สอดคล้องกับอาการปวดหัวไมเกรน

สุดท้ายนี้จะเห็นได้ว่าอาการปวดหัวบ่อยนั้นมีหลายสาเหตุ โดยแต่ละสาเหตุล้วนสามารถรักษาได้ครับ ลองหาเวลาไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลดูเพื่อการรักษาที่ถูกต้องและต้องเนื่องครับ