February 02, 2020 22:25
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การฉีดยาคุมนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปนิดกระปรอยทางช่อฝคลอดและมีตกขาวได้คร้ง แต่ถ้าหากมีอาการดังกล่าวนานผิดปกติก็ควรได้รับการตรวจเพื่อแยกจากสาเหตุอื่นๆก่อน เช่น
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกบางอย่าง
เป็นต้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ถ้าเป็นการฉีดยาคุมเข็มแรก เมื่อฉีดภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยนะคะ
2. ถ้ายาคุมที่ใช้เป็นยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน อาจทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนได้ค่ะ ดังนั้น ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง เลือดที่ออกมาก็น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาเองนะคะ
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเลือดออกมามากหรือนานผิดปกติ หรือถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดยาคุมตั้งแต่20/01/63 หลังประจำเดือนมา 2วัน วันที่27/01/63 มีตกขาวสีน้ำตาลปนเลือด ต่อมามีเลือดออกคล้ายประจำเดือนตั้งแต่วันที่29/01/63 จนถึงวันนี้ อยากทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไรค่ะ ถ้าเลือดไม่หยุดไหลควรทำอย่างไรค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)