หนูมีประจำเดือนวันที่1-6ค่ะ ช่วงไข่สุกคือวัน11-17 เเล้ว13-15หนูอะไรกับเเฟน ไข่ตกวันที่16 เเล้ววันนี้วันที่15หนูอาเจียนไปรอบนึงค่ะ อยากทราบว่ามีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยคะ เพราะว่าตอนเเฟนสำเร็จความใคร่ให้หนูด้วยมือเค้า หนูไม่เเน่ใจว่ามือเค้าเปื้อนอสุจิหรือเปล่า เเล้วถ้ากินยาคุมฉุกเฉินเเบบ1เม็ดในวันที่16จะมีโอกาสท้องมั้ยคะ เเล้วประจำเดือนจะเลื่อนมั้ยคะ มีผลข้างเคียงอย่างไรคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันไปโดยเฉพาะอยู่ในช่วงที่คาดว่าอาจมีการตกไข่ด้วยก็มีโอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ได้สูงครับ ในกรณีนี้จึงควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก่อนเพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85%

ส่วนประจำเดือนหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นมักจะยังมาตามปกติอยู่ครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนาน หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

สวัสดีครับ
การทานยาคุมแบบฉุกเฉินในวันที่ 16 สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 75-80% ครับ เนื่องจากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์วันแรกวันที่ 13 ซึ่งยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงครับ ดังนั้นควรรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ อย่างไรก็ตามการทานยาคุมฉุกเฉินยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อยู่ครับหากขาดประจำเดือนจึงแนะนำให้ตรวจครรภ์ ผลข้างเคียงของยาที่อาจจะพบได้คือการมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ซึ่งมักจะเกิดในช่วงภายหลังการทานยาชนิดนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ เลือดที่ออกมานั้นไม่ใช่ประจำเดือน และไม่ได้บ่งบอกว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์ครับ ประจำเดือนจริงๆของผู้ที่ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมักจะมาปกติตามรอบเดือน ในช่วงเวลาเดิมครับ

1. วันที่ไข่ตกจริงอาจคลาดเคลื่อนไปจากที่คาดการณ์ไว้ได้ค่ะ ดังนั้น หากยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ควรป้องกันด้วยวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงเสมอนะคะ

2. ไม่ว่าจะมีอสุจิติดมือในตอนที่ "สำเร็จความใคร่" หรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าผู้ถาม "มีเพศสัมพันธ์" โดยไม่ป้องกันใด ๆ ก็ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% ค่ะ

แต่ถ้าใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หากใช้ถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ

3. ยาคุมฉุกเฉินควรรับประทานให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ ดังนั้น หากผู้ถามต้องการใช้เพื่อลดความเสี่ยงที่มี เช่น ถ้าใช้ถุงยางไม่ถูกวิธี หรือมีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็ยังสามารถทำได้ โดยแนะนำให้รับประทานแบบหมดแผงในครั้งเดียวนะคะ

นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว แต่ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ หากใช้ครบขนาดและทันเวลา อาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้เป็น 15 - 25% แทนได้

4. ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งหรือเลื่อนประจำเดือนค่ะ ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันนะคะ

5. ส่วนผลข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม ไม่สบายท้อง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร

ดังนั้น หากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ไม่ต้องสนใจผลข้างเคียงจากยานะคะ

6. แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

ถ้ามีการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันอย่างถูกต้องแล้วก็จะมีโอกาสตั้วครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ

ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ที่แฟนใช้มือที่เปื้อนอสุจิมาสัมผัสกับช่องคลอดหลังจากนั้นจะไม่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์เนื่องจากอสุจิที่ออกมาสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกจะมีการเสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็วแล้วทำให้ไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้อีกครับ

โดยสรุปแล้วเหตุการณ์นี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั่งครรภ์และไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ

การสำเร็จความใคร่ด้วยมือนั้น หากนิ้วมือชุ่มอสุจิที่เพิ่งหลั่งออกมาแล้วสอดใส่ไปในช่องคลอด ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้นะคะ แต่ความเสี่ยงอาจไม่สูงเท่ากับการหลั่งในช่องคลอดโดยตรง (ไม่ว่าจะหลั่งในหรือหลั่งนอก) เพราะปริมาณอสุจิที่ยังมีความสามารถในการเข้าผสมกับไข่น่าจะเข้าไปในช่องคลอดได้น้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีความเสี่ยงที่อสุจิที่ยังมีความสามารถในการเข้าผสมกับไข่จะเข้าไปในช่องคลอดได้ และเสี่ยงที่จะมีไข่ตกในช่วงเวลาดังกล่าว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองไว้ก่อน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการไม่ป้องกันใด ๆ ค่ะ

หลังจากที่อสุจิออกมาสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกแล้ว อสุจิก็จะมีการเสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็วตามที่หมออธิบายไปครับ ดังนั้นต่อให้มีการสอดใส่นิ้วเข้าไปในช่องคลอดต่อก็จะไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ครับ