แฟนของผมกินยาคุมไม่ครบแผง(อันนี้หมายถึงกินไม่ครบแผงใหม่นะครับ) หลังจากหยุดยาเมื่อวันที่2กุมภาก็เริ่มมีเลือดออกเล็กน้อยเป็นสีน้ำตาลเข้ม พอวันที่3กุมภาก็มีเลือดไหลออกมาในปริมาณที่เหมือนประจำเดือน โดยแฟนผมเพิ่งหมดประจำเดือนไปเมื่อวันที่27มกรา และเราก็ได้มีเพศสัมพันธ์กัน อยากถามคุณหมอว่าอาการที่เป็นอยู่นี้คืออาการของการกินยาคุมไม่ครบแผงรึเปล่าครับ

เพื่อความชัดเจน ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
1. ใช้ยาคุมยี่ห้ออะไรคะ
2. รับประทานเม็ดสุดท้ายของแผงเดิมในวันที่เท่าไหร่ และเป็นเม็ดที่เท่าไหร่ของแผง
3. เริ่มรับประทานเม็ดแรกของแผงล่าสุดในวันที่เท่าไหร่คะ
4. ประจำเดือนรอบก่อน (ที่หมดในวันที่ 27 มกราคม) มาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่คะ
5. นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมาในข้อที่ 4 มาจนถึงปัจจุบัน มีเพศสัมพันธ์ในวันที่เท่าไหร่บ้าง และป้องกันอย่างไร
6. หยุดรับประทานยาคุมด้วยเหตุผลใดคะ

อาจเกิดได้จากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดได้ครับ แต่พบได้น้อยครับ

สาเหตุอื่นๆ เช่น การติดเชื้อในโพรงมดลูก การบาดเจ็บและอักเสบของช่องคลอดและมดลูก เช่น. มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก เป็นต้นครับ

สาเหตุอื่นๆ เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ซีสต์ที่รังไข่ ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล เป็นต้นครับ

หากยังมีเลือดออกผิดปกติอีกควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

ประจำเดือนที่มาในวันที่ 24 มกราคม ซึ่งตรงกับวันที่รับประทานเม็ดแป้งเม็ดที่ 3 ของยาคุมยาส (หรือเท่ากับเม็ดที่ 27 ของแผงนั่นเอง) ถือว่าปกติ และหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ

***ขอแก้ไขคำตอบตามข้อมูลที่ได้รับล่าสุดว่ารับประทานแผงใหม่แค่ 4 วัน รอสักครู่จึงค่อยกดรีเฟรชหน้าจอใหม่นะคะ***

ทีแรกตั้งใจว่าจะแก้ไขคำตอบเดิม แต่กังวลว่าผู้ถามอาจกดอ่านคำตอบไปแล้วก่อนการแก้ไข และไม่ได้กลับมาอ่านคำตอบที่เปลี่ยนแปลงซ้ำอีก ดังนั้น ถ้ามีการตอบในความเห็นใหม่ ก็น่าจะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ถามกลับมาอ่านคำตอบที่ถูกแก้ไข (ให้เหมาะสมกับข้อมูลที่ได้รับมาเพิ่มเติม) ดังนั้น ขออนุญาตตอบในความเห็นใหม่เลยนะคะ

1. การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 25 และ 27 มกราคม มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์หรือไม่

การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 25 มกราคม มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะตั้งครรภ์ค่ะ เพราะเลือดประจำเดือนน่าจะชะล้างอสุจิ (ที่อาจปนมากับน้ำหล่อลื่นในขณะที่สอดใส่โดยไม่ใช้ถุงยาง) ออกไปจากช่องคลอดได้ และช่วงเวลานั้นก็มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะมีไข่ตก นอกจากนี้ สภาพของเยื่อบุโพรงมดลูกไม่น่าจะพร้อมรับการฝังตัวหากอสุจิผสมกับไข่ได้

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการต่อยาคุมแผงใหม่ตรงตามกำหนด แต่เมื่อขาดยาคุมยาสติดต่อกันมากกว่า 48 ชั่วโมงในสัปดาห์แรกของแผง ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่ยาคุมแผงนี้จะยับยั้งไข่ที่จะตกในรอบเดือนนี้ไม่ได้นะคะ ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 27 มกราคม จึงถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ 5 - 24% ตามผลป้องกันของวิธีนับวันปลอดภัย "หน้า 7 - หลัง 7" ค่ะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ก็ไม่สามารถจะป้องกันฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลงนะคะ จึงต้องรอดูต่อไปว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ หรือตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสมค่ะ

2. เลือดที่ออกมาเป็นผลจากการหยุดรับประทานยาคุมหรือเปล่า

ประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ

การใช้ยาคุมยาสแผงใหม่ไปเพียงแค่ 4 วันแล้วหยุดใช้ ไม่ควรจะทำให้ประจำเดือนมาเร็วผิดปกติค่ะ แต่อาจทำให้เกิดเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ (อาจพบได้ทั้งจากการรับประทานแผงแรก ๆ, การรับประทานไม่ตรงเวลา หรือการหยุดใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม)

ดังนั้น ถ้าในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ "มีเลือดไหลออกมาในปริมาณที่เหมือนประจำเดือน" ซึ่งหมายถึงมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย ก็ถือว่าผิดปกติค่ะ และเสี่ยงที่จะทำให้เสียเลือดมากจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะเกิดห่างจากวันแรกที่มีประจำเดือนรอบล่าสุดเพียงแค่ 10 วัน จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์ในเช้าวันนี้ เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

3. จะคุมกำเนิดต่ออย่างไร

ในตอนนี้ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมที่เคยใช้แล้ว หากยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ค่ะ

และถ้าต้องการคุมกำเนิดด้วยการใช้ยาคุมรายเดือนอีก ควรรอให้ประจำเดือนมาตามรอบปกติก่อน จึงค่อยซื้อแผงใหม่มาใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนนะคะ

แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ หรือถ้าไม่มั่นใจ และกังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ