ประจำเดือนขาดไป 43 วันค่ะ ก่อนหน้าประจำเดือนไม่มาเคยมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน หลังจากนั้นก็เกิดอาการฉี่แสบขัด มีเลือดออกเวลาฉี่ และมีประจำเดือนสีเข้ม(น้ำตาลแดงค้ำๆ) ออกมานิดหน่อย และพอใกล้จะถึงรอบเดือนเมษา ไปบริจาคเลือดมาค่ะ หลังจากบริจาคเลือดไม่ได้ทานยาธาตุเหล็ก และหลังจากนั้นก็มีอาการคล้ายจะเป็นประจำเดือน มีการปวดท้องปวดหลัง และก็หายไปไม่มีประจำเดือนมาในรอบเดือนนั้นได้ทำการตรวจดูโดยใช้ที่ตรวจครรรภ์ตรวจสองรอบดูแล้วก็ไม่ท้อง จนมาตอนนี้อาการเริ่มมีปวดหลัฃและตกขาวเยอะกว่าปกติ แต่ประจำเดือนยังไม่มาอย่างนี้มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์หรือมีความผิดปกติทางร่างกายอย่างอื่นมั้ยค่ะ

สวัสดีครับ
1. ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันไปก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์หด้ง่ายครับ แต่ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์ห่างจากการมีเพศสัมพนธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็สามารถเชื่อถือผลตรวจนี้ได้ครับ แต่ถ้าหากยังไม่ได้ตรวจในช่วงเวลานี้ หมอก็แนะนำให้ตรวจใหม่อีกครั้งในเวลาที่เหมาะสมก่อน

2. ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ ไม่มีการตกไข่ ความเครียด ไทรอยด์เป็นพิษ การออกกำลังกายอย่างหักโหม น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS) ซึ่งก็อาจรอประจำเดือนไปก่อนได้ครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

3. อาการปัสสาวะแสบขัดก่อนหน้านี้อาจเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ แต่ถ้าอาการหายไปแล้วก็ไม่มีปัญหาครับ

4. อาการปวดหลังมีตกขาวอาจเป็นอาการนำในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือนได้ครับ จึงอาจรอสังเกตอาการดูก่อนได้ แต่ถ้าอาการเป็นนานผิดปกติ มีอาการปวดที่รุนแรง หรือตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียว มีกลิ่นเหม็น หรือทำให้เกิดอาการคัน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมครับ