November 29, 2019 05:06
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการเจ็บที่บริเวณใต้ราวนมขวาเวลาที่ไอจามอย่างรุนแรง และมีความสัมพันธ์กับการขยับคัวเปลี่ยนท่าทาง มีจุดกดเจ็บที่ชัดเจนนั้นมักมีสาเหตุมาจากการอักเสบของกล้ามเนื้อจากการหดเกร็งตัวที่มากเกินไประหว่างไอหรือจามครับ
การบรรเทาอาการในเบื้องต้นนั้นหมอแนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดอาการเจ็บได้ทุก 4-6 ชั่วโมงร่วมกับให้ระมัดระวังไม่ให้ไอจามแรงเกินไป ส่วนการรักษาอาการไอ มีน้ำมูก มีไข้ต่ำๆนั้นหมอก็แนะนำให้รับประทานยาไปตามที่แพทย์สั่งก่อนครับ
ถ้าหากปฏิบัติตามนี้ 2-3 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีไข้สูง หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอกรุนแรงมาก หมอก็แนะนำว่าควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมอีกครั้งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อาการแบบนี้ควรพบแพทย์หรือยัง และต้องแจ้งแพทย์ว่ายังไงบ้างคะ เนื่องจาก ประมานวันที่11 ดิฉัน มีอาการเจ็บคอละก็ไอ ดิฉัน ก็ได้รักษาด้วยการ ซื้อยาแก้ไอ ที่เป็นน้ำมาจิบทาน ทานอยู่หลายวัน อาการก็ไม่ดีขึ้น ยังคงไอมี เสลดทุกครั้ง บ้างครั้งก็คายทิ้งบางครั้งตอนนอนก็กลืนลงไป เลยไปร้านขายยา เภสัชแนะนำให้ทาน โซลแมค จึงซื้อกลับมาทาน จนหมดแผง อาการยังไม่ดี เลยไปพบหมอที่คลีนิค เมื่อ 2-3วันที่ผ่านมา ตอนไปมีไข้ต่ำ ประมาน37.8 คุณหมอให้ตรวจหาไข้หวัด ผลคือไม่เป็นไข้หวัด คุณหมอบอกว่า น่าจะแพ้พวกฝุ่น ให้ยาที่ช่วยขยายหลอดลมมาด้วย พอกลับมาทานยาที่บ้าน มีอาการเจ็บปวด บริเวณซี่โครงใต้ราวนมขวา เวลาไอ หายใจเข้าออก บางทีก็เจ็บ ต้อง งอตัว กุมจุดที่เจ็บตลอด จนตอนนี้ ทรมานเพราะเมื่อเช้า อยู่ๆก็มีน้ำมูกไหล จาม เหมือนคนเป็นหวัด ตอนนี้ คือไอก็เจ็บ ขยับตัวก็เจ็บ ยิ่งตอนจามยิ่งเจ็บ มีจุดเจ็บเฉพาะเลยจุดเดียว ดิฉันอายุ27ปี ยาที่ทานปัจจุบัน Amoxicillin 875mg+clavalanic acid125mg Theophylline B.P. 200mg Cetirizine Hydrochloride 10mg
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)