May 15, 2021 09:35
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
กรณีสงสัยเรื่องติดเชื้อ HIV
หลังจากมีพฤติกรรมเเสี่ยงประมาณ 5-7 วัน ก็สามารถไปตรวจได้ครับ เช่นที่ คลินิคนิรนาม หรือ รพ รัฐ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ตรวจได้เกือบหมดครับ
ถ้าหากยังไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อขอรับยาต้านไวรัสHIVมารับประทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนได้ครับ
โดยหลังจากได้รับเชื้อ ในช่วงแรก สารพันธุกรรมของไวรัส (RNA และ DNA) ก็แบ่งตัวจะขยายจำนวนเพิ่มขึ้นจนมากพอที่เราสามารถใช้เทคนิคที่เรียกว่า NAAT (nucleic acid amplification testing) ตรวจได้หลังมีพฤติกรรมเสี่ยง 5-7 วัน
อาจใช้เวลา 1-2 วันรอผลครับ แล้วเเต่ที่
หลังจากนั้นจะมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เช่น ตรวจหาAntigen(p24) Antibodyซึ่งคือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายมีต่อเชื้อ(Anti HIV) ซึ่งมักตรวจได้หลังรับเชื้อประมาณ 1 เดือนขึ้นไป(ถ้าเป็นน้ำยา4th genจะตรวจเจอได้เร็วกว่า) โดยทั่วไปเเนะนำว่าจะเจอหลังติดเชื้อ3เดือน (พ้นระยะฟักตัว) อันนี้รู้ผลเร็วภายในวันนั้นเลยครับ
สรุปคือ
- ถ้ายังไม่เกิน 72 ชม.หลังเหตุการณ์ ปรึกษาเเพทย์ ขอยาต้านไวรัส. ุกเฉินได้ครับ
- ให้ตรวจซ้ำ ที่1 เดือน เเละ 3 เดือนได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
พอดีไปมีเพศสัมพันธ์ผ่านการ oral sex มาแล้วกลัวว่าจะติดเชื้อ hiv เลยชื้อชุดตรวจแบบ rapid test มาตรวจซ้ำ2รอบ ผลเป็นลบ แล้วไปตรวจที่คลินิคอีก1ครั้ง ผลเป็นลบเหมือนกัน เพราะว่ามีอาการท้องเสีย ปวดเมื่อยตามร่างกายและตามข้อ และมีอาการคัน แต่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ เราสามารถมั่นใจได้แค่ไหนว่าจะไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)