March 31, 2020 21:09
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากเลือดที่ออกมาก่อนหน้านี้หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินมาก่อนรอบประจำเดือนตามปกติก็มีแนวโน้มที่จะเป็นผลข้างเคียงของการรับประทานยาคุมฉุกเฉินมากกว่าที่จะเป็นประจำเดือนครับ และถ้าหากเมื่อถึงรอบประจำเดือนแล้วประจำเดือนยังไม่มาตามปกติก็ยังต้องสงสัยว่าอาจมีการตั้งครรภ์ได้ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆเช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เมื่อวันที่18กุมภากินยาคุมฉุกเฉินไป อยู่ๆก็มีน้ำไหลออกมาจากหัวนม แล้วรู้สึกเหมือนนมมีรอยแตก แล้วหลังจากกินยาไปได้6วันก็มีประจำเดือน ซึ่งตอนแรกคิดว่ามีเลือดประปริกระปอย แต่กลายเป็นว่ามาเยอะมากมาได้4-5วัน ก่อนหน้าที่จะกินยาคุม ประจำเดือนมาวันสุดท้ายวันที่14 บันทึกลงในปฏิทินในแอพที่เช็คช่วงประจำเดือน ซึ่งประจำเดือนต้องมาวันที่10ตามกำหนดในแอพ แต่ล่าช้ามา10วันแล้ว มีอาการเหมือนคนจะเป็นประจำเดือนทุกอย่าง แต่ประจำเดือนไม่มา บางทีก็ปวดท้องน้อยขึ้นมาแปปๆแล้วก็ท้องอืดแต่โดยปกติเป็นโรคกรดไหลย้อนอยู่แล้ว มันเป็นเพราะว่าเรามีประจำเดือน เดือนที่แล้วไป2รอบหรือป่าวคะ จึงมีอาการคลาดเคลื่อนในเดือนนี้ แล้วสามารถทำให้มาปกติได้ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)