ขออนุญาตินะคะ อยากจะสอบถามคุณหมอคะ พอดีว่าเมื่อเดือนกุมพาหนูมีประจำเดือนรอบแรกคือวันที่7-10คะ แล้วปจด.ก็มาอีกเมื่อวันที่21-25 ก็มาไม่ค่อยเยอะมากคะ แล้วพอมาเดือนนี้ปจด.ก็ดันมาอีกเมื่อวันที่2คะมาจนถึงวันนี้คะวันแรกมาเยอะแต่ไม่เท่าไหร่คะจนตอนนี้มาน้อยก็เหมือนจะหมดแล้วคะ แต่ตอนเป็นเมนเมื่อวันที่24-25ประมานนี้แต่เผลอไปมีอะไรกับแฟนคะแล้วแตกในแต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าหมดรึยัง มาน้อยจนไม่รู้ว่าหมดหรือไม่หมด อยากจะสอบถามหมอคะ เพราะตอนนี้ที่เป้นปจด.อยู่ มันคลื่นใส้แปลกๆเหมือนจะอ้วกแต่ก็ไม่อ้วกคะแล้วก็มีปวดท้องเหมือนท้องผุด้วยคะ มีโอกาสท้องไหมคะ #ไม่ได้กินยาคุมคะ

สวัสดีครับ
จากที่เล่ามานั้นเลือดที่ออกมาออกมาติดต่อกันในระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้นครับ ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเลือดนี้จะเป็นประจำเดือนจริง และอาจเกิดจากความผิดปกติอื่นๆได้ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกบางอย่าง
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ 4-22% ครับ หลังจากนี้หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

สวัสดีครับ
ก่อนอื่นต้องแยกระหว่างการเป็นประจำเดือนปกติหรือเลือดที่ออกผิดปกติทางช่องคลอดครับ โดยหากเป็นประจำเดือนลักษณะเลือดที่ออกมาจะเป็นลักษณะเหมือนรอบเดือนที่ผ่านๆมาทั้งด้านปริมาณ ระยะเวลาที่มา และรอบเดือนสม่ำเสมอใกล้เคียงกับช่วงเดิมครับ แต่ถ้าเป็นเลือดที่ออกผิดปกตินั้นสาเหตุอาจเกิดได้หลายอย่างครับ เช่น
- มีติ่งเนื้อในมดลูก
- มดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกกล้ามเนื้อในมดลูก
- การเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ
- มะเร็ง
- ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- การตกไข่ผิดปกติ เช่น โรค PCOS, โรคไทรอยด์
- การทานยาบางชนิด เช่น ยาด้านจิตเวชบางตัว, ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน, ยาคุมกำเนิดชนิดโพรเจสเทอโรน เป็นต้น
สาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติม ดังนั้นแนะนำในกรณีที่เป็นเลือดผิดปกติทางช่องคลอดนั้นให้ไปพบสูติแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ

ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์นั้นหากไม่มั่นใจว่าเป็นรอบเดือนจริงหรือไม่แนะนำให้ทดสอบหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน หากทดสอบการตั้งครรภ์อย่างถูกวิธี ผลการทดสอบมีความน่าเชื่อถือสูงมากครับ