สวัสดีค่ะ คุณหมอ ตอนนี้หนูสงสัยว่าตัวเองท้อง เพราะหน้าท้องมันใหญ่ขึ้นผิดปกติ ฉี่บ่อย เหนื่อยง่าย ประจำเดือนยังไม่มาหลังจากคลอดลูกคนแรก(แต่หนูเคยฝังเข็มยาคุมไปเมื่อ เดือนมีนาคม ปี62 ระยะเวลาฝังเข็ม 3ปี ตอนนี้ยังไม่ครบกำหนดถอดเข็ม)-หลังจากฝังเข็มยาคุมไปได้ประมาณ 1-2เดือน หนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟน อยากรู้ว่าหนูมีโอกาศท้องได้มั๊ยคะ เพราะตอนนี้ลูกคนแรกพึ่งจะอายุได้ 11เดือนเองค่ะ

สวัสดีครับ
ในช่วงที่ฝังยาคุมอยู่นั้นจะมีผลข้างเคียงทำให้ประจำเดือนขาดหายไปได้ครับ และในช่วงท่่ยังฝังยาคุมอยู่ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.05% เท่านั้น ในกรณีนี้โอกาสตั้งครรภ์จึงมีน้อยมากครับ

แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจจริงๆ หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ส่วนอาการที่หน้าท้องใหญ่ขึ้นนั้นก็อาจเหิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น การมีน้ำหนักตัวที่มากขึ้น อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย อาการท้องผูกบ่อยๆ การมีเนื้องอกบางอย่างในช่องท้อง เป็นต้น ซึ่งก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการในส่วนนี้เพิ่มเติมดูได้ครับ

ถ้าฝังเข็มยาคุมกำเนิดเลยหลังคลอดตามนัด ยังไม่ครบกำหนดเอาออก เเละมีเพศสัมพันธ์หลังฝังเข็มไปเเล้ว1-2เดือน โดยสรุป ยายังมีฤทธิผืคุมกำเนิดครับ โอกาสท้องนั้นเเทบไม่มีเลยครับ (ถ้ากังวลก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ครับ หลังมีเพศสัมพันธ์ 14 วัน)

โดยการที่ประจำเดือนขาด เป็นผลจากยาฝังได้ครับ
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยในการฝังยา เช่น
ประจำเดือนผิดปกติ ในช่วง 3 เดือนแรกประจำเดือนอาจมาไม่สม่ำเสมอ ส่วนใหญ่จะมาน้อยลงและห่างออกจนถึงอาจไม่มีรอบเดือนเลย บางคนรอบเดือนมามากขึ้น มาทุกวันหรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง เเละไม่ได้อันตรายครับ

การฝังยาคุมกำเนิดเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบันค่ะ ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.05% เท่านั้น ในกรณีของผู้ถามซึ่งมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาฝังคุมกำเนิด จึงมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ

ผลข้างเคียงเด่น ๆ ของยาฝังคุมกำเนิดอาจทำให้ผู้ใช้มีเลือดกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนค่ะ การที่ผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาจึงน่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น หากผู้ถามกังวลใจ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความชัดเจนได้

และหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ และแสบขัดเวลาปัสสาวะ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ