July 18, 2020 11:04

สวัสดีค่ะ หนูไปหาหมอด้วยอาการตกขาวผิดปกติ เพราะมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง หมอให้ยาด๊อกซี่มาทาน 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นตกขาวหาย แต่ยังมีอาการ ต่อมน้ำเหลืองโตตรงขาหนีบหลายก้อน และต่อมน้ำเหลืองโตตรงคอ หมอบอกว่าติดเชื้อที่อุ้งเชิงกราน เพราะตรวจ hiv ไวรัสตับอักเสบบี ค่าเป็นลบหมด หมอจึงให้แอทมิท ให้ยา คลินด้า กับเจนต้า เป็นเวลา 1 สัปดาห์ แล้วหลังจากนั้น ก็ให้ยากลับมาทานที่บ้านต่ออีก 1 สัปดาห์ เป็นยาคลินด้า และยา เมโทรนิดาโซน ทานครบแล้ว ไปพบหมอ อาการต่างๆหายหมด เหลือต่อมน้ำเหลืองยังไม่หาย หมอบอกว่าหายแล้ว ต่อมน้ำเหลืองจะค่อยๆยุบ ผ่านไป 1 สัปดาห์ ต่อมน้ำเหลือยังไม่ยุบ และตอนนี้เริ่มมีอาการท้องเสียได้ 1 วัน มีผื่นเม็ดทรายขึ้นบริเวณต้นขา มีอาการปวดหลัง ปวดคอข้างที่ต่อมน้ำเหลืองโต ต่อมน้ำเหลืองยังไม่ยุบ และมีอาการเจ็บริเวณขาหนีบเวลาเดิน มีอาการเจ็บจี๊ดเป็นๆหายๆทั่วตัว มีอาการไข้เป็นๆหายๆ แต่ประจำเดือนมาปกติ มีอาการเจ็บจี๊ดๆที่อวัยวะเพศบางครั้ง มีอาการผะอืดผะอมบ้างบางครั้ง ขออนุญาตสอบถามคุณหมอว่าหนูจะเป็นโรคอะไร หรือควรตรวจหาเชื้ออะไรอีกมั้ยคะ

ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)