ขออนุญาติสอบถามครับ คือผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนตอนประจำเดือนมา(วันที่2) เมื่อวันที่8ธ.ค.62 โดยไม่ได้ป้องกัน ต่อมาประจำเดือนของแฟนผมก้อไม่มาอีก จนมาถึงวันที่ 19-21 ม.ค.63 ผมได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีกโดยไม่ได้ป้องกันตามเคย อยากทราบว่าถ้าตั้งครรภ์ จะเริ่มตั้งครรภ์ช่วงไหนครับ หรือเป็นไปได้มั้ยว่าจะไม่ตั้งครรภ์ รบกวนหน่อยครับ

สวัสดีครับ
อาจมีการตั้งครรภ์หรือไม่ก็ได้ครับ หากมีการตั้งครรภ์อายุครรภ์จะเริ่มนับตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายครับ อันดับแรกแนะนำให้ทำการตรวจการตั้งครรภ์โดยใช้ปัสสาวะเพื่อหาสาเหตุของการขาดประจำเดือนดูก่อนครับ หากทดสอบการตั้งครรภ์แล้วไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์ การขาดประจำเดือนอาจเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ เช่น ความเครียด ไข่ไม่ตก ฮอร์โมนเพศผิดปกติ มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ เป็นต้น ถ้าประจำเดือนขาดเกิน 3 เดือน แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ

1. ถ้าเดิมประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เเล้วมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อน7วันจนถึงหลัง7วันนับจากประจำเดือนมาวันเเรก เป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องเเทบไม่มีครับ

เเต่ถ้าเดิมประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้กะช่วงเวลาตกไข่ยาก หรือประจำเดือนมาสม่ำเสมอเเต่มีเพศสัมพันธ์ช่วง14วันนับจากวันเเรกที่ประจำเดือนรอบนั้นมา จะเป็นช่วงไข่ตก โอกาสท้องมากขึ้นครับ

ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ช่วงประจำเดือนวันที่2นั้นโอกาสท้องน้อยครับ

2. เเนะนำตรวจการตั้งครรภ์ครับถ้าประจำเดือนขาด โดยทั่วไปก็จะถือว่าตรวจพบว่าท้องได้ เมื่อประจำเดือนขาดครับ หรืออย่างเร็วที่ตรวจได้ คือสองสัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์
ถ้าตรวจเเล้วไม่ท้อง ก็เว้นสักสัปดาห์ ค่อยตรวจซ้ำครับ ถ้าไม่ท้องจริงๆ เเล้วประจำเดือนยังไม่มาเป็นเดือนๆให้ไปพบสูตินรีเเพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
การตรวจการตั้งครรภ์เเนะนำให้ตรวจจากปัสสาวะเเรกหลังตื่นนอนจะมีฮอร์โมนHcgจากการตั้งครรภ์มากที่สุดครับ

3. การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด ถ้าตรวจเเล้วไม่ท้อง อาจเกิดได้จาก
- ความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
- โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ)
- เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกเเลตซีสต์) อาการคือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้นครับ
- การที่อายุเริ่มเยอะ เช่น 40-45 ปี จะเข้าสู่ช่วงก่อนวัยทอง ประจำเดือนก็มาไม่สม่ำเสมอได้ครับ
- ความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับ หากประจำเดือนขาดนานๆร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหล

สวัสดีค่ะ

ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงประจำเดือน หรือวันปลอดภัยหน้า 7 หลัง 7 มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 5-24%ค่ะ ส่วนรอบที่สองมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันเลยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงถึง 85%ค่ะ จริงๆแล้วทั้งสองกรณีนี้ควรต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 120 ชั่วโมง ซึ่งยาคุมจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% แต่ถ้าเลย 120 ชั่วโมงแล้วไม่สามารถทำอะไรได้แล้วค่ะ กรณีนี้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้จากปัสสาวะเมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านมาแล้ว 14 วัน โดยให้ตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันค่ะ

ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประจำเดือนขาด เช่น ฮอร์โมนแปรปรวน ความเครียด ออกกำลังกายหักโหม ฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ เนื้องอก ติ่งเนื้อ หรือมะเร็ง เป็นต้น และถ้าประจำเดือนขาดนานเกิน 3 เดือนโดยไม่ได้ตั้งครรภ์ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุค่ะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันนั้นมีโอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ง่ายครับ แต่ในกรณีนี้ถ้าหากมีการตั้งครรภ์จริงก็จะยังบอกได้ยากว่าจะมีการตั้งครรภ์ในวันใด

ในเยนั้นหมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากตรวจแล้วพบการตั้งครรภ์ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์โดยเร็วที่สุด แต่ถ้าหากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช่าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่งแต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ

การนับอายุครรภ์นั้นจะต้องนับจากวันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายหรือจากผลอัลตราซาวด์ขึ้นอยู่กับว่าแพทย์ประเมินว่าข้อมูลจากส่วนใดมีความน่าเชื่อถือมากกว่ากันครับ

ในกรณีนี้การที่ทราบวันที่มีเพศสัมพันธ์ไปนั้นยังไม่สามารถนำมาแปลผลเป็นอายุครรภ์ได้ครับ