สวัสดีคะ ดิฉันเคยเป็นหูดหงอนไก่เมื่อ4-5ปีที่แล้ว ได้ไปตรวจภายในที่โรงพยาบาลคุณหมอพบว่าเป็นหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ เลยได้มีการทำจี้หูดไฟฟ้าออก หมอบอกว่ามันเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ แต่ปัจจุบันเลิกกับแฟนคนนั้นนานแล้วนะคะ ตอนนี้มีความกังวลคือเป็รคนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง กลัวแฟนปัจจุบันที่คบอยู่รู้ แล้วเข้าจะรับไม่ได้ที่เราเคยเป็นกูดหงอนไก่ เพราะมันสามารถกลับมาเป็นได้อีก อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับหูดหงอนไก่ให้มากขึ้นให้คลายความกังวล ตอนนี้เครียดมากเลยคะเพราะเราเคยเป็นมาก่อน ช่วยให้ข้อมูลและคำปรึกษาหน่อยนะคะ ขอบคุณคะ

สวัสดีครับ
โรคหูดหงอนไก่นั้นเกิดจากการติดเชื้อ HPV ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ครับ หลังการเป็นโรคหูดหงอนไก่นั้นเมื่อรักษารอยหูดหายไปแล้วก็จะต้องรอร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมากกจัดเชื้อ HPV ออกไปเอง แต่ถ้าหากไม่สามารถกำจัดเชื้อ HPV ออกได้ก็จะมีโอกาสเป็นหูดหรือมะเร็งปากมดลูกซ้ำได้ ในช่วงหลังจากนี้จึงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีครับ

ส่วนการมีเพศสัมพันธ์กับแฟนคนใหม่นั้นถ้าจะต้องการให้แน่ใจได้มากที่สุดว่าจะไม่ทำให้แฟนติดหูดหงอนไก่ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ครับ

สวัสดีค่ะ

โรคหูดหงอนไก่เกิดจากเชื้อไวรัส Human papilloma virus (HPV) มักขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ นอกจากนี้สามารถขึ้นที่อื่นได้ เช่น ทวารหนัก ช่องปาก ลำคอ หลอดลม อาการรอยโรคจะมีลักษณะคล้ายหงอนไก่ เป็นสีชมพู ลักษณะขรุขระ บางรายอาจมีคัน สำหรับการรักษาหูดหงอนไก่สามารถรักษาได้ซึ่งขึ้นกับขนาด ตำแหน่ง และจำนวนของหูดค่ะ ได้แก่ การใช้ยาทา เช่น Podofilox การจี้ไฟฟ้า จี้ด้วยความเย็น การผ่าตัด เป็นต้น กรณีที่มีรอยโรคอยู่ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาค่ะ และถ้ากังวลมากว่าจะติดโรคหูดหงอนไก่อีกควรสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ค่ะ นอกจากนี้แฃ้วถุงยางอนามัยยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศโรคอื่นๆได้อีกด้วยค่ะ เช่น โรคเอดส์ โรคซิฟิลิส โรคไวรัสตับอักเสบ เป็นต้นค่ะ

สามารถตรวจได้ค่ะ ให้ไปแผนกสูตินรีแพทย์ค่ะ

การตรวจว่าเชื้อ HPV หมดไปหรือยังนั้นสามารถตรวจได้ที่แผนกสูตินรีเวชของทุกโรงพยาบาลครับ ซึ่งก็จะตรวจที่โรงพยาบาลใดก็ได้ที่มีแผนกสูตินรีเวชครับ

จริงๆสามารถไปรักษาได้ทุกโรงพยาบาลที่มีแผนกสูตินรีแพทย์ค่ะ หมอไม่สามารถระบุชื่อโรงพยาบาลได้เพราะทุกโรงพยาบาลมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสามารถรักษาได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้รักษาว่าต้องการเน้นความสะดวกสบาย ใกล้บ้าน ไม่รอนาน ก็อาจแนะนำให้ไปโรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้าน แต่อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงหน่อย ถ้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายหมอแนะนำให้ไปตรวจโรงพยาบาลรัฐบาลที่ตนมีสิทธิการรักษาค่ะ สามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์สายด่วนสปสช.1330 จะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาค่ะ