June 18, 2020 22:16
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
1. ถ้ามั่นใจว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ก็สามารถหยุดฉีดยาคุมไปก่อนได้ครับ แต่เมื่อใดก็ตามที่จะกลับมามีเพศสัมพันธ์อีกก็ต้องฉีดยาคุมก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 7 วัน หรือต้องฉีดยาคุมภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมจึงจะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ
2. การฉีดยาคุมชนิด 3 เดือนจะมีผลข้างเคียงให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรกๆหลังฉีดยาคุมครับ และหลังจากนั้นก็อาจทำให้ประจำเดือนขาดหายไปได้ ในกรณีที่ผลข้างเคียงนี้รบกวนมากก็อาจไปปรึกษาแพทย์สูตินรีเวชเพื่อให้ยามาปรับฮอร์โมนหรือเปลี่ยนไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นได้ครับ
3. การรับประทานยาคุมแบบรายเดือนควรรับประทานยาคุมให้ตรงเวลาทุกวันครับ หรือถ้าจะมีการคลาดเคลื่อนไปบ้างก็อาจมีได้เล็กน้อย แต่ก็ไม่ควรเกิดขึ้นบ่อยเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของยาคุมครับ (ยาคุมแต่ละยี่ห้อจะสามารถรับประทานคลาดเคลื่อนได้ในเวลาที่ไม่เท่ากัน)
4. การคุมกำเนิดที่มีผลให้ช่องคลอดแห้งได้ง่ายมักเป็นการคุมกำเนิดประเภทที่ใช้ฮอร์โมน Progestrogens อย่างเดียว เช่น การฉีดยาคุมชนิด 3 เดือน หรือการฝังยาคุมครับ แต่จัไใ่มีการคุมกำเนิดวิธีใดที่ทำให้เป็นหมันครับ
5. การคุมกำเนิดไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็จะไม่ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกครับ
6. หมอไม่แน่ใจว่าความเสี่ยงที่กล่าวถึงคือความเสี่ยงด้านใดครับ แต่ถ้าจะให้มีผลข้างเคียงจากการคุมกำเนิดน้อยที่สุดก็จะเป็นการใช้ถุงยางอนามัยครับ เพราะจะไม่มีการให้ฮอร์โมนใดๆเข้าไปในร่างกาย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
7. ยาคุมแต่ละชนิดนั้นจะมีการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้อาจมีลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติจากเดิม หรือมีอาการปวดท้องจากผลข้างเคียงของยาคุมได้บ้างครับ แต่ในกรณีนี้ก็จะต้องแยกจากสาเหตุอื่นๆก่อน เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เนื้องอกบางอย่าง ถ้ามีอาการผิดปกติเหล่านี้บ่อยๆ ก็ต้องมีการตรวจภายในหาสาเหตุก่อนครับ
8. การคุมกำเนิดที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยถ้าไม่ได้มีข้อห้ามในการใช้ครับ (ข้อห้ามใช้ต่างๆต้องพิจารณาไปตามชนิดของการคุมกำเนิดที่เลือกใช้)
9. ในปัจจุบันไม่มีการคุมกำเนิดวิธีใดที่ทำให้ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งมากขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ มีเรื่องอยากจะรบกวนถามข้อมูลเกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิดค่ะ 1.การคุมกำเนิดด้วยวิธีการฉีด คือทุกๆ3เดือน จะต้องฉีดครั้งนึง แล้วถ้าเกิดว่าเรามั่นใจ100%ว่าจะไม่มีเพศสัมพันธ์กับสามีเลยตลอดระยะเวลาสามเดือนหรือสองเดือน เราจะไม่นอนกับสามี เราจะหยุดฉีดยาคุมได้ไหมคะ? ถ้าครบสามเดือนหรือสองเดือนแล้ว เราขัดใจคุณสามีไม่ได้เราจำเป็นต้องมีไรกันกับสามี เราค่อยมาฉีดอีก แบบนี้จะสามารถทำได้ไหมคะ? 2.การฉีดยาคุม ถ้าเราฉีดแล้วมีประจำเดือนมาตลอดเลย มาทุกวันเลย จะทำยังไงคะ? สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเกิดมาจากอะไรเหรอคะ? 3.การคุมกำเนิดด้วยวิธีการ กินยาเม็ดคุมกำเนิด ....จำเป็นจะต้องกินให้ตรงเวลาทุกวันไหมคะ เช่น เรากินตอนเวลา 20:00น. ก็ต้องมากินตอนสองทุ่มแบบนี้ทุกวันเลยไหมคะ ถ้าเรากิน เวลาคลาดเคลื่อนไป อาจจะเป็น สองทุ่มครึ่งหรือสามทุ่ม สี่ทุ่ม แบบนี้จะเป็นอะไรไหมคะ? แล้วถ้าเราลืมกินยาคุมหล่ะคะ จะต้องทำอย่างไร? 4.การคุมกำเนิดด้วยวิธีการต่างๆ จะทำให้มดลูกแห้ง และถ้าใช้ไปนานๆ จะทำให้เป็นหมันได้ หรือมีลูกยาก เป็นเรื่องจริงใช่ไหมคะ ข้อนี้ขอคำอธิบายแบบชัดๆหน่อยนะคะ😊 5.การเป็นมะเร็งปากมดลูก และโรคต่างๆของผู้หญิง เกิดจากการใช้ยาคุมกำเนิด เป็นเวลานานใช่ไหมคะ? 6.การคุมกำเนิดด้วยวิธีการแบบใดดีคะ ที่ทำให้สุขภาพร่างกายเรามีความเสี่ยงน้อยที่สุดค่ะ? 7.การใช้ยาคุมกำเนิดด้วยวิธีการต่างๆ(ก็ไม่รู้ว่าที่เป็นเกิดจากการกินยาคุมหรือเปล่าค่ะ) แล้วตอนประจำเดือนมา จะมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่พอสมควร มีสีแดงเข้ม มีจุดเป็นจ้ำๆ ออกมาจากช่องคลอดค่ะ และมีการปวดท้องประจำเดือนมากๆๆที่สุดเลยค่ะ แบบนี้เป็นเพราะอะไรเหรอคะคุณหมอ พอเลิกใช้ยาคุมทุกชนิด แล้วทำหมัน ก็ไม่เป็นอีกเลยค่ะ ไม่มีเลือดเป็นก้อนเป็นลิ่มๆแล้วด้วยค่ะ อยากทราบไว้เป็นความรู้ค่ะ 8.การคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ จะเป็นอันตรายมากไหมคะ กับผู้หญิงอย่างเราๆค่ะ 9.การใช้ยาคุมกำเนิด(ทุกชนิดเลย) ไม่ว่าจะเป็นการคุมกำเนิดด้วยวิธีใดก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดผลเสียต่อผู้หญิงทั้งสิ้นและมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ เช่นมะเร็งปากมดลูก มดลูกแห้ง เป็นความจริงทั้งหมดใช่ไหมคะ? ....ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ ที่คุณหมอทุกท่านได้มาให้คำตอบหรือคำแนะนำ กับคำถามที่ดิฉันอยากรู้ค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ🙏🙏....
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)