February 29, 2020 12:48
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้ายังอยู่ในช่วง 3 เดือน ยังไม่ครบกำหนดเข็มถัดไป ไม่มีปัญหาครับ มีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ โอกาสตั้งครรภ์เเทบไม่มีครับ (เเต่อย่าลืมว่า ถ้าไม่ใส่ถุงยาง มีโอกาสติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้นะครับ)
เลือดประจำเดือนออกกระปริบกระปรอยก็เป็นผลจากยาฉีดรายสามเดือนไได้ครับ กรณีเป็นฮอร์โมนเดี่ยว(โปรเจสเตอโรน)ส่วนใหญ่ฉีดทุกสามเดือนครับ อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอย ประจำเดือนไม่มาตามรอบ น้ำหนักขึ้นได้ หากหยุดฉีดกว่าจะกลับมาตกไข่ มีลูกได้ใช้เวลาประมาณ10-12เดือนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ยังไม่ถึงกำหนดฉีดยาคุมก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.2-6% เท่านั้นครับ
ส่วนการมีเลือดออกนั้นอาจเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดยาคุมที่ทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนได้ แต่ถ้าหากอาการเลือดออกนั้นออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ
ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์นั้นถ้ามีความกังวลก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
หากแยู่ในระยะเวลา 3 เดือนตามชนิดของยาคุมที่ได้ฉีดไปก็ไม่ต้องกังวลครับ เนื่องจากการคุมกำเนิดโดยการฉีดยาคุมนั้นป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 94-99.8% ครับ ทั้งนี้การมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดระหว่างรอบเดือน เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ผลข้างเคียงของยาคุมที่ฉีดอยู่
- มีติ่งเนื้อในมดลูก
- มดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกกล้ามเนื้อในมดลูก
- การเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ
- มะเร็ง
- ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- การตกไข่ผิดปกติ เช่น โรค PCOS, โรคไทรอยด์
- การทานยาบางชนิด
สาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติม ดังนั้นหากสงสัยหรือกังวลสามารถไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. เมื่อมีผลป้องกันจากยาคุมที่ฉีดอยู่ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ โอกาสตั้งครรภ์คือ 0.2 - 6% หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลถ้าฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ
ดังนั้น ถ้ายังต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ต่อไปก็อย่าลืมไปฉีดยาคุมให้ตรงตามนัดนะคะ
2. ผลข้างเคียงเด่น ๆ ของยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน คือ เลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนค่ะ จึงไม่แปลกถ้าผู้ถามจะมีเลือดกะปริบกะปรอยหรือประจำเดือนมาไม่ปกติดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเลือดออกมามากหรือนานผิดปกติ หรือถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
การคุมกำเนิดด้วยการฉีดยาคุมจะมีประสิทธิภาพในการคุมได้ถึง 94-98.8% หรือโอกาสตั้งครรภ์มีเพียง 0.2-6% ดังนั้นสามารถหลั่งในได้ตามปกติค่ะ กรณีนี้มีนัดฉีดอีกทีวันที่ 3 มีนาคม ก็ให้ไปฉีดตามนัดค่ะ
ส่วนอาการประจำเดือนมารอบที่ 3 ในเดือนกุมภาพันธ์ หมอคิดถึงเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดยาคุมกำเนิดได้ค่ะ ถ้าไม่ต้องการให้เกิดผลข้างเคียงนี้หมอแนะนำให้พบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการฉีดยาคุมแบบทุก 1 เดือนค่ะ
อย่างไรก็ตามยังมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เลือดออกทางช่องคลอดที่ผิดปกติ เช่น ช่องคลอดอักเสบ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ มีเนื้องอกหรือมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งถ้าไปฉีดยาคุมครั้งถัดไปหมอแนะนำให้แจ้งแพทย์ให้ทราบ เพื่อที่จะได้มีการตรวจประเมินร่างกายเพิ่มเติมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะหมอ ขอสอบถามหน่อยค่ะ พอดีว่ายาคุมกำเนิดแบบ3เดือนมา จะหมดรอบไปฉีดอีกทีวันที่3เดือนมีนาค่ะ แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ประจำเดือนมารอบที่3แแล้วค่ะ พอดีว่าแฟนหลั่งในตลอด จะเป็รอะไรไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)