February 13, 2020 23:33
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปนั้นยังไม่มีประจำเดือนมาตามปกติ ก็ถือว่ายังมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ โดยในกรณีนี้หมอแนะนำอาจต้องลองตรวจการตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้งก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ แต่ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์ตามช่วงเวลานี้ไปแล้วก็อาจตรวจซ้ำอีกครั้งที่เวลา 1 สัปดาห์ห่างจากการตรวยครั้งแรกเพื่อให้ได้ผลตรวจที่เชื่อถือได้มากที่สุดครับ
ในกรณีที่ตรวยแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ประจำเดือนที่ผิดปกติไปนั้นห็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณค่ะ จะรอว่าจะมาปกติหรือปล่าว ค่อยตรวจอีกรอบ ลุ้นมากค่ะคุณหมอ อยากมีมากๆอาจจะวิตกมากไป 🙏🏻
สวัสดีค่ะ คุณหมอ *(มี พสพ.ตอนเทสเจอวันไข่ตก) สอบถามเรื่องความผิดปกติของรอบเดือน ตามแอปฯ รอบเดือนจะมาวันที่ 10 ก.พ. (ไม่ได้วัดอุณหภูมิแต่มีอาการขี้หนาวก็คิดว่ารอบเดือนจะมาปกติ) แต่รอบนี้มีเป็นมูกใสผสมกับเลือกเป็นเส้นๆ จุดๆ แล้ววันที่ 11 มีมาเป็นสีน้ำตาล วันที่ 12-13 ก็มาเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆค่ะ มาในปริมาณที่น้อย แคร์ฟรีแผ่นเดียวน่าจะเอาอยู่ค่ะ วัดอุณหภูมิร่างกายวันที่ 12-13 อยู่ที่ 36.6 ปล*ตรวจทดสอบการตั้งครรภ์ผลเป็นลบค่ะ อยากทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้างคะ ยังมีโอกาสว่าจะท้องได้มั้ยคะ #ขออนุญาตแนบรูปอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)