สวัสดีคะ อยากทราบเรื่องท้องที่ท่อนำไข่คะ พอดีไปตรวจภายในที่คลีนิคแห่งหนึ่งใกล้บ้าน ร่างกายมีความผิดปกติคือมีเลือดออกจากช่องคลอดเป็นสีนำตาลเข้ม ซึ่งออกไม่มากต่อวัน ระยะเวลาประมาน1อาทิตย์ ตรวจพบว่ามีอาการท้องที่ท่อนำไข่ข้างขวา ขณะนี้รู้แค่ว่าเด็กไม่โตมาก ไม่รู้อายุครรภ์ใหญ่แค่ไหน #อยากทราบถึงความเสี่ยงของภาวะ 1.ระยะในการฉีดยาให้ตัวอ่อนหยุดการเจริญเติบโต ทำได้ในอายุครรภ์หรือเด็กที่กำลังเติบโต กี่เซนในท่อนำไข่ 2.อายุครรภ์ต้องโตกี่เซน หรือ ร่างกายต้องมีความผิดปกติอย่างไรถึงจะต้องเข้าผ่าตัดฉุกเฉิน 3.แล้วมีหรือไม่ร่างกายตรวจไม่พบความผิดปกติอย่างอื่นแล้วคุณหมอให้ผ่าตัดฉุกเฉินเลย 4.ผ่าตัดท่อนำไข่ข้างขวาออกไปแล้ว ปีกมดลูกข้างขวาที่ยังอยู่ จะปล่อยไข่ยังไง หรือจะรักษาสมดุลในร่างกายไว้ยังไง 5.จะเข้าสู่ภาวะมีบุตรยากใช่หรือไม่ และมีความเสี่ยงที่จะเป็นท้องนอกมดลูกอีกหรือไม่ 6.ก่อนที่จะมีลูกต้องไปปรึกษาหมดโดยเฉพาะเพื่อกันความเสี่ยงท้องนอกมดลูกตลอดใช่หรือไม่ #ขอคำแนะนำอย่างละเอียดจากคุณหมอคะ

สวัสดีครับ หมอขอตอบไล่ไปตามคำถามนะครับ 1. การฉีดยาเพื่อให้ตัวอ่อนที่ท่อนำไข่ฝ่อไปนั้นโดยทั่วไปจะทำได้ในกรณีที่ตัวอ่อนยังไม่มีหัวใจเต้นและมีขนาดไม่เกิน 3-4 เซนติเมตรครับ แต่ข้อบ่งชี้เรื่องขนาดของตัวอ่อนนี้ก็ไม่ได้เป็นคำแนะนำที่จะต้องทำในรูปแบบนี้อย่างชัดเจน ในบางกรณีแพทย์ก็อาจเลือกใช้การฉีดยาได้แม้ตัวอ่อนจะมีขนาดเกิน 3-4 เซนติเมตรไปแล้วครับ และนอกจากนี้ก็จะต้องประเมินจากค่าฮอร์โมน HCG ในเลือดด้วย ถ้าหากค่า HCG < 5000 mIU/ml ก็จะเหมาะสมที่จะเลือกใช้วิธีฉีดยาครับ 2. ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะรักษาด้วยการผ่าตัดเมื่อท่อนำไข่มีการแตก มีความดันเลือดไม่คงที่ หรือมีข้อห้ามของการฉีดยา เช่น มีการตั้งครรภ์ในมดลูกร่วมด้วย ให้นมบุตรอยู่ เป็นโรคตับ โรคไต เป็นต้นครับ 3. โดยปกติแล้วแพทย์จะเลือกการรักษาด้วยการฉีดยาเป็นวิธีแรกเสมอถ้าไม่มีข้อห้ามในการฉีดยาครับ 4. การผ่าตัดท่อนำไข่นั้นท่อนำไข่อีกข้างจะยังสามารถปล่อยไข่ออกมาได้ตามปกติ เพราะสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกายจะยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเนื่องจากรังไข่ทั้ง 2 ข้างจะยังทำงานได้ปกติครับ 5. การรักษาการตั้งครรภ์นอกมดลูกนั้นถ้าไม่ได้มีการตัดท่อนำไข่ออกไปทั้ง 2 ข้างก็จะไม่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากครับ ส่วนโอกาสตั้งครรภ์นอกมดลูกซ้ำจะอยู่ที่ประมาณ 10% ครับ 6. ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์ครับ และเมื่อมีการตั้งครรภ์แล้วก็ควรไปพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์โดยเร็วที่สุดครับ