May 27, 2020 13:54
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้ามีอาการหูอื้อโดยที่ได้ตรวจดูเรื่องขี้หูแล้วปกติดี ไม่พบการติดเชื้อในหู แต่ยังคงมีอาการอยู่เมื่อเวลาผ่านไป ก็อาจต้องมีการตรวจการได้ยินเพื่อยืนยันก่อนครับว่ามีปัญหาการได้ยินที่ลดลงหรือไม่ ถ้ามีการได้ยินลดลงจริงก็ต้องมีการตรวจประเมินอาการเกี่ยวกับการทำงานของเส้นประสาทรับเสียงที่หูเพิ่มเติมครับ
หรืออีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้คือในช่วงที่เป็นโรคภูใิแพ้นั้นถ้ามีน้ำมูกมากๆก็อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการหูอื้อได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามอาการหูอื้อค่ะ -เริ่มมีอาการหูอื้อข้างซ้ายตั้งแต่วันอาทิตย์เย็นค่ะ (ขณะมีอาการกำลังนั่งดูทีวีค่ะ) -วันรุ่งขึ้น (จันทร์) จึงไปรพ.พบคุณหมอเฉพาะทางด้านหู คุณหมอแจ้งว่าขี้หูอุดตันจึงดูดออกให้ และตรวจช่องหูพบว่าปกติดี เยื่อแก้วหูก็ปกติ แต่อาการเรายังไม่ดีขึ้น มีความรู้สึกหูอื้ออยู่เหมือนเดิม ซึ่งเป็นตลอดเวลาและเมื่ออยู่ข้างนอกจะยิ่งรู้สึกเหมือนมีเสียงรบกวนดังในหู ทำให้การได้ยินลดลง -จึงไปหาคุณหมออีกรพ.ในวันอังคารค่ะ เป็นคุณหมอเฉพาะทางหูค่ะ คุณหมอบอกเหมือนที่รพ.แรกเลยค่ะว่าหูปกติ ให้กลับมาพักผ่อนและอย่าเครียด ปล.วันอังคารมีอาการหูอื้อ มีเสียงคล้ายลมในหู และได้ยินเหมือนมีเสียงสะท้อนเวลาเราพูดหรือคนอื่นพูด มาเพิ่มด้วยนะคะ (อาการเหล่านี้บอกคุณหมอที่รพ.ไปหมดแล้วค่ะ คุณหมอก้เช็คให้แล้วก็ส่องกล้อง ก็บอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติค่ะ) -มีโรคประจำตัวคือ ภูมิแพ้ (ฝุ่น อากาศ) มีอาการอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะไอ จาม ทานยา Fexofenadine 60 mg ตามอาการค่ะ -นอนน้อย เครียดสะสมค่ะ แต่ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา นอนพักผ่อนมากขึ้นมากแล้วค่ะค่ะ ปัจจุบัน (วันพุธ) ซึ่งมีอาการมาสามสี่วันแล้ว ยังมีอาการหูอื้อข้างซ้าย ร่วมกับมีเสียงคล้ายลมดังรบกวนตลอด ทำให้ได้ยินเสียงจากภายนอกลดลงค่ะ อาการจะดีขึ้นหากอยู่ในห้องเงียบๆ หรือหาอะไรปิดหูข้างซ้ายไว้ค่ะ อยากสอบถามว่าควรรักษาหรือแก้ไขอย่างไรดีคะ ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรคะ ขอบคุณมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)