เมื่อปลายเดือนพฤศจิกาปีที่แล้ว เป็นไข้เลือดออกพร้อมกับเป็นประจำเดือนเดือนค่ะ ได้นอนโรงพยาบาล 3 วัน หมอให้ยาหยุดประจำเดือนเเต่ว่าประจำเดือนก็มาอยู่นะคะเเต่มานิดเดียว จนออกจากโรงพยาบาลวันที่ 2 ธันวา พอวันที่ 5 ธันวาประจำเดือนมาอีกและหยุดวันที่ 8 ธันวา พอปลายเดือนธันวารู้สึกเหมือนประจำเดือนจะมา เเต่ปนออกมาพร้อมกับตกขาวเเค่นิดเดียวนะคะ จนถึงวันนี้ประจำเดือน ที่น่าจะมาวันที่ 5 มกราคม เเต่กลับไม่มา เลยมา 1 อาทิตย์เเล้วค่ะ อยากทราบว่ายาที่หมอให้กินหยุดประจำเดือน มีผลข้างเคียงในการมาช้า หรือผิดปกติกับประเดือนในเดือนนี้มั้ยคะ

สวัสดีครับ
การรับประทานยาเพื่อหยุดประจำเดือนในช่วงที่เป็นไข้เลือดออกนั้นอาจมีผลให้ประจำเดือนมีการเชื่อนออกไปได้เล็กน้อยครับ ซึ่งในกรณีนี้ก็จะต้องนับว่ามีประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาในวันที่ 5-8 ธันวาคม และก็ต้องเริ่มนับรอบเดือนจากวันดังกล่าวครับ

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ไม่ได้รับประทานยาหยุดประจำเดือนดังกล่าวแล้วประจำเดือนก็ไม่ควรคลาดเคลื่อนไปนานครับ ถ้าหากเวลาผ่านไปเรื่อยๆแล้วประจำเดือนก็ยังไม่มา ก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- มีการตั้งครรภ์
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น

ถ้าหากในรอบเดือนที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อน หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากไม่มีการตั่งครรภ์อยู่ก็สามารถรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ