ขอสอบถามนิดนึงค่ะ พอดีวันที่7/1/2563ช่วงหัวค่ำเราโดนหมากัด (แต่ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าก็มีเด็กโดนไป1คน) ของเรากัดจนจมเขี้ยวที่ข้อขาขวา มีเลือดออกไม่มากเท่าไหร่และมีอาการบวมแดงอย่างเร็ว ลุกเดินไม่ไหวมีอาการปวดและร้อนขึ้นเรื่อยๆเมื่อขยับหรือลองเดิน ตรงนี้ได้ฉีดยารอบแผลและฉีดยาต้านพิษสุนัขและกันบาดทะยักที่แขนทั้ง2ข้างแล้วแต่วันนี้เข้าวันที่8/1/2563มีอาการปวดเมื่อยทั้งตัวและมีอาการร้อนๆหนาวๆปวดหัวรู้สึกมีไข้ร่วมยืนจะล้มอยากทราบว่าตรงนี้เกิดจากอะไรเรามีโอกาสเสี่ยงที่รับเชื้อจากสุนัขมั้ย

สวัสดีครับ
การที่ถูกสุนัขกัดเป็นแผลนั้นมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ครับ แต่อาการของโรคพิษสุนัขบ้านั้นกง่าจะเริ่มแสดงอาการก็มักจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์หลังถูกสุนัขกัดครับ อาการที่เกิดขึ้นในตอนนี้จึงไม่นาาใช่อาการของโรคพิษสุนัขบ้าครับ

การมีไข้ ปวดเใื่อยในกรณีนี้มีแนวโน้มท่่จะเกิดจากสาเหตุอื่นๆมากกว่า เช่น มีแผลติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อวัคซีนที่ฉีด ซึ่งในกรณีนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนเพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม โดยที่ในระหว่างนี้ก็สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ได้ทุก 4-6 ชั่วโมงครับ

นอกจากนี้หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ครบทุกเข็มเพื่อให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าครับ