March 09, 2020 00:36
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ที่ได้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันแล้วถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2% เท่านั้นครับ และการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการสอดใส่ก็จะไม่สามารถทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ จากที่เล่ามานี้จึงมีโอกาสที่จะมีการตั้งครรภ์ได้น้อยมากครับ
แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ส่วนเลือดที่ออกมาก่อนหน้านี้ถ้าหากไม่ใช่ประจำเดือนก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกบางอย่าง
ถ้าหากเลือดที่ออกมาผิดปกติในลักษณะนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แล้วเมนส์อะครับหมอ
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
1. การใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิดมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2% หากใช้อย่างถูกวิธีครับ
2. การนำอวัยวะเพศมาถูผ่านกางเกงและไม่ได้มีเซลล์สืบพันธ์ุเพศชายเข้าไปในอวัยวะเพศหญิงนั้นไม่ได้ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ และไม่ทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดครับ
3. เลือดที่ออกผิดปกติทางช่องคลอดโดยที่ไม่ใช่ประจำเดือนนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
- การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศ
- มีติ่งเนื้อในมดลูก
- มดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกกล้ามเนื้อในมดลูก
- การเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ
- มะเร็ง
- ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- การตกไข่ผิดปกติ
- การทานยาบางชนิด
หากมีเลือดออกมาก หรือมีความผิดปกตินี้บ่อยๆ รวมถึงถ้ากังวลแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากประจำเดือนมาช้าในเบื้องต้นหมอก็แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ดูตามที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ และถ้าหากไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่น เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอครับผมมีพสพ.กับแฟนวันที่13กุมภาโดยใส่ถุงยางป้องกันเรียบร้อยหลังจากนั้นประมาณวันที่19ผมเล่นกับแฟนโดยการเอาอวัยวะเพศมาถูและกระแทกแรงๆ(ใส่กางเกงอยู่)จนหลั่งในกางเกง ไม่โดนส่วนใดของแฟนผมเลย หลังจากนั้นวันที่20หรือ21เลือดออกกระปริบกระปรอยทางอวัยวะเพศครับสีเลือดปกติ นาน5-7วัน ผมและแฟนเลยคิดว่ามันคือเมนส์ แต่ปกติแล้วเมนส์แฟนผมจะมาต้นเดือน หลังจากที่เลือดออกครับต้นเดือนนี้เมนส์แฟนผมยังไม่มาเลยอยากรู้สาเหตุครับว่าที่เลือดออกเกิดจากอะไรมันคือเมนส์หรือเปล่าหรือเกิดจากการกระแทก แล้วมีโอกาสท้องไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)