April 20, 2020 13:16
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะไม่มีผลทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนครับ และถ้าหากได้มีประจำเดือนมาแล้วหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายก็ไม่ควรมีการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามถ้าหากต้องการความมั่นใจก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันก่อนได้ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ในกรณีที่ไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่
(PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
ซึ่งในกรณีนี้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ อยากถามเกี่ยวกับเรื่องการเลิกทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ หลังจากทานยาคุมฉุกเฉินติดต่อกันมา4เดือน เดือนละไม่เกิน2 ครั้ง ส่วนตัวกินยาคุมฉุกเฉินครั้งล่าสุดวันที่ 22ก.พ. และมีเพศสัมพันธ์อีกทีวันที่ 29 ก.พ. ใส่ถุงหลั่งในค่ะ และได้ตรวจสอบว่าถุงไม่ได้รั่ว เลยไม่ได้ทานยาคุมค่ะ และประจำเดือนมาครั้งล่าสุดวันที่ 10 มี.ค. (ระยะเวลา3-4วัน มีอาการปวดท้องน้อยร่วม) หลังจากนั้นไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ และ ไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินแต่อย่างใดค่ะ ปัจจุบันปจด. ควรมาแล้ว แต่ยังไม่มาค่ะ และก่อนหน้านี้ มีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย แต่ปจด. ไม่ได้มานะคะ และค่อนข้างเครียดนิดหน่อย อยากทราบสาเหตุมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)