เป็นประจำเดือนครั้งล่าสุดวันที่27เดือนธันวาคม62 แต่เดือนมกราคมประจำไม่มาตามปกติเลื่อนมา5วัน มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย จะมีการตั้งท้องไหมค่ะ!?

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้แล้วประจำเดือนขาดหายไปก็ถือว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็จะมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

สวัสดีครับ
หากมีประวัติมีเพศสัมพันธ์ในรอบเดือนที่ผ่านมาแล้วขาดประจำเดือนย่อมมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ เบื้องต้นแนะนำให้หาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ตามร้านขายยาทั่วไปมาทดสอบได้ด้วยตนเองครับ แนะนำให้ทดสอบหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน หากทดสอบการตั้งครรภ์อย่างถูกวิธี ผลการทดสอบมีความน่าเชื่อถือสูงมากครับ ถ้าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น สาเหตุที่ประจำเดือนไม่มานั้นอาจเกิดจาก ไม่มีการตกไข่ ฮอร์โมนเพศผิดปกติ เครียด ออกกำลังกายหนัก น้ำหนักน้อยหรือมากเกินไป เป็นต้น หากประจำเดือนไม่มามากกว่า 3 เดือน แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ ส่วนเรื่องปวดท้อง ท้องเสียนั้นอาจเกิดจากอาหารเป็นพิษหรือการติดเชื้อในลำไส้ครับ แนะนำให้จิบเกลือแร่ทดแทนการสูญเสียน้ำครับ

อาการปวดท้องไม่จำเพาะต่อการปวดประจำเดือนเพียงอย่างเดียวครับ อาการปวดท้องอาจเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ เช่น การปวดกล้ามเนื้อบริเวณท้อง ลำไส้อักเสบ การปวดประจำเดือน เป็นต้น ทั้งนี้อาการปวดท้องของผู้ถามมีอาการท้องเสียร่วมด้วยสาเหตุของการปวดท้องจึงน่าจะมาจากการปวดท้องจากระบบทางเดินอาหารครับ

การจะตั้งครรภ์หรือไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับอาการปวดท้องครับ ซึ่งการที่ผู้ถามขาดประจำเดือนนั้นมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ จึงได้แนะนำให้ทำการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองครับ ทั้งนี้ควรทดสอบหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน ผลที่ทดสอบได้จะเป็นตัวบ่งบอกว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ครับ

หากมีการตั้งครรภ์ประจำเดือนจะไม่มาเลยครับ ไม่จำเป็นต้องขาดประจำเดือนเป็นระยะเวลานานกี่วันถึงจะตั้งครรภ์ครับ แต่ที่แนะนำให้ทำการตรวจหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 14 วันเนื่องจากเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นจะสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ตอนที่ระดับฮอร์โมนที่ใช้ตรวจการตั้งครรภ์นั้นสูงเพียงพอ ซึ่งปกติจะประมาณ 14 วันครับ

ถ้าประเลือ่อนห่างออกไปก็ต้องถือว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ ในกรณีนี้จึงควรตรวจการตั้งครรภ์ตามช่วงเวลาที่หมอแนะนำไปก่อนครับ

ระยะเวลาของประจำเดือนในแต่ละเดือนอาจไม่แน่นอนครับ ซึ่งไม่ได้เป็นตัวบอกถึงการตั้งครรภ์หรือไม่ เบื้องต้นแนะนำให้หาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ตามร้านขายยาทั่วไปมาทดสอบได้ด้วยตนเองครับ แนะนำให้ทดสอบหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน ผลการทดสอบจะเป็นตัวบอกเองครับว่ามีการตั้งครรภ์รึเปล่าครับ