พอดีช่วงอยู่กำลังรักษาสิวอยู่แล้วหมอให้กินยาฆ่าเชื้อตัวในรูปค่ะ แล้วกินควบคู่กับยาคุมเมอซิลอน 21 ค่ะ ตอนนี้ทานยาคุมได้ 8 วันแล้วค่ะ อยากจะถามคุณหมอว่า 1.ยาฆ่าเชื้อตัวนี้ไปลดประสิทธิภาพยาคุมมั้ยคะ ถ้าลดมันจะลดเยอะมั้ยคะ 2.กินยาคุมตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนมา 8 วันแล้วเลือดยังไม่หยุดเลยค่ะ 3.ช่วงนี้สามารถมีเพศสัทพันธ์แบบไม่ป้องกันได้มั้ยคะ หรือว่าสามารถหลั่งในได้ปกติมั้ยคะ 4.กินคู่กันจะเสี่ยงต่อการท้องมากน้อยแค่ไหนคะ

1. ยาปฏิชีวนะที่ผู้ถามใช้คือ Doxycycline ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน (Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use ฉบับปรับปรุงปี ค.ศ.2017) ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด หากจำเป็นก็สามารถใช้ร่วมกับยาคุมเมอซิลอนได้ค่ะ

2. ประจำเดือนปกติควรจะมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน หากเลือดประจำเดือนของผู้ถามมาต่อเนื่องกันตลอด 8 วันนี้ และไม่มีแนวโน้มว่าจะหายไป ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เสียเลือดมากจนส่งผลเสียต่อสุขภาพนะคะ

3. เมื่อรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทาน สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือนอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกราน ดังนั้น ควรรอให้ประจำเดือนหายดีก่อนจึงค่อยมีเพศสัมพันธ์นะคะ

4. การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากเมอซิลอน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% ตามผลป้องกันปกติของยาคุมรายเดือน ซึ่งความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ ถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ และยาปฏิชีวนะที่ใช้อยู่ ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาคุมค่ะ

หากประจำเดือนหายดีแล้ว และต่อมาพบว่ามีเลือดออกกะปริบกะปรอยในบางวัน โดยที่ไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุม ซึ่งอาจพบในการใช้แผงแรก ๆ (1 - 3 แผงแรก) หรือเมื่อรับประทานไม่ตรงเวลา โดยเฉพาะสำหรับยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนอยู่ในระดับ "ต่ำมาก" อย่างเมอซิลอนค่ะ

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ผู้ถามให้มาว่ามีประจำเดือนต่อเนื่องกันมา 8 วัน ซึ่งนานเกินกว่าที่ควรจะเป็นนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใดนะคะ และหากไม่มีแนวโน้มว่าประจำเดือนจะหายเลย ก็อาจเสี่ยงต่อการเสียเลือดมากจนส่งผลเสียต่อสุขภาพค่ะ

ดังนั้น ถ้าประจำเดือนมาต่อเนื่องกันทุกวันนานกว่า 7 วัน และไม่มีแนวโน้มว่าจะหายไป หรือถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ