ทำอย่างไรแผลเป็นจากการผ่าตัดถึงจะหายคะ

- ทายาลบรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของวิตามินอี , วิตามินเอ, วิตามินบี 3 ที่ช่วยลดสีผิวของแผลไม่ให้เข้มกว่าสีผิวปกติ, สารสกัดจากหัวหอม (Allium cepa) ที่ช่วยยับยั้งการอักเสบ ลดการสร้างคอลลาเจนบริเวณรอยแผล, สารสกัดจากใบบัวบก (Asiatic acid, Madecassic และ Asiaticoside) ที่ช่วยกระตุ้นการหายของแผลได้อย่างสมบูรณ์ ลดการสร้างคอลลาเจนบริเวณรอบแผล, สารมิวโคโพลีแซคคาไรด์ (MPS) ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณรอยแผล ทำให้การซ่อมแซมมีความสมบูรณ์, ยากลุ่มสเตียรอยด์, ยาที่เป็นซิลิโคนเจล เป็นต้น เช่น ยี่ห้อ MEDERMA , Scagel , Hiruscar -การใช้แผ่นเจลซิลิโคนสามารถช่วยทำให้สีของแผลจางลงและแผลเป็นแบนราบลงได้ แต่จะเหมาะสำหรับแผลเป็นที่มีสีแดงหรือสีคล้ำหรือนูนเท่านั้น โดยนำมาปิดทับแผลที่เป็นหรือคีลอยด์ เป็นระยะเวลานานมากกว่าวันละ 12 ชั่วโมง จึงจะช่วยทำให้แผลเป็นยุบลงได้ แต่อาจต้องใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน -การลอกผิวด้วยกรดผลไม้ (Chemical Peeling) เหมาะกับแผลเป็นตื้นมาก ๆ อาศัยหลักการที่ว่าใช้สารเคมีไปขจัดผิวชั้นบนออก ซึ่งการจะขจัดได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและชนิดของสารที่ใช้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ -การฉีดฟิลเลอร์ ในกรณีที่มีแผลเป็นแบบเป็นรอยบุ๋ม -เลเซอร์แผลเป็น (Laser therapy) เพื่อไปทำลายเนื้อเยื่อผิวที่นูนออกให้เรียบขึ้น -การใช้เครื่องทำความเย็นจี้บริเวณแผลให้เกิดภาวะถุงน้ำและเกิดการแตกสลายไป เทคนิคนี้พบว่าสามารถช่วยลดขนาดของแผลเป็นลงได้บ้าง เหมาะใช้กับแผลเป็นนูน การรักษารอยแผลเป็นโดยใช้เทคนิคทางการแพทย์มีหลายวิธี อาจต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจลักษณะของรอยแผลเป็นแล้วแพทย์จะแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมค่ะ