ประจำเดือนขาดมา 53 วันแล้ว มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดคือวันที่ 22 ธันวาคม ป้องกันโดยใส่ถุงยางอนามัย โดนก่อนหน้านี้ประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาเมื่อวันที่ 10 พ.ย. และมีเพศสัมพันธ์ช่วงปลอดภัยและใส่ถุงยางอนามัย ตรวจการตั้งครรภ์เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ขึ้น 1 ขีด อยากทราบว่าควรรอตรวจการตั้งครรภ์อีกครั้งไหมคะ และหากตรวจอีกครั้งแล้วขึ้น 1 ขีดเหมือนเดิม ควรพบแพทย์เลยหรือควรรอประจำเดือนรอบต่อไปให้มาปกติดีคะ เนื่องจากปกติแล้วไม่เคยประจำเดือนขาดมาก่อนค่ะ

สวัสดีครับ
การตรวจการตั้งครรภ์ที่จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้นั้จะต้องตรวจเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ จึวจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปในวันที่ 22 ธันวาคม ก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้งโดยชใช้ป้สสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าของวันที่ 5 มกราคมครับ

ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุของการขาดประจำเดือนก่อนโดยเฉพาะถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนครับ

การมีตกขาวปนเลือดออกมานั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มูกตกไข่
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- การอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เนื้องอกบางอย่าง
เป็นต้น

ถ้าหากตกขาวปนเชือดดังกล่าวออกมาเพียงเล็กน้อยแล้วหยุดไปเองก็อาจจะยังไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่เป็นอันตรายอย่างชัดเจนครับ แต่ถ้าหากมีตกขาวผืดปกติในลักษณะนี้ออกมาในปริมาณมาก ออกมาติดต่อกันหลายวัน หรือมีอาการเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในหาสาเหตุครับ