มีเพศสัมพันธ์กันแต่ไม่ได้กินยาแต่ฉีดยาแทนมีสิทธิ์ที่จะท้องไหมคะ

หากฉีดยาคุมกำเนิดมานานกว่า7วันอแล้วมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า99.7% ครับ
จึงมีความเสี่ยงท้องน้อยมากๆ ไม่ต้องคุมกำเนิดอย่างอื่นครับ

สวัสดีครับ
ถ้าหากฉีดยาคุมก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ โดยฉีดภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน หรือฉีดยาคุมมานานเกิน 7 วันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.2-6% เท่านั้นครับ

แต่ถ้าหากไม่ได้อยู่ใน 2 กรณีข้างต้น หมอก็แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก่อนเพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% ครับ

ยาฉีดคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูงกว่า "ยาคุมรายเดือนชนิดเม็ด" ค่ะ ถ้าฉีดยาคุมถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดจากยาขึ้นมาแล้ว การมีเพศสัมพันธ์นั้นก็มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.2 - 6% ตามผลป้องกันของยาฉีดคุมกำเนิด หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล ถ้าฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ

แต่ยาคุมชนิดฉีดไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินนะคะ ดังนั้น จึงไม่สามารถนำมาใช้แทน "ยาคุมฉุกเฉิน" ได้ค่ะ

หลังฉีดยาคุมแล้ว ถ้าหากฉีดยาคุมชนิด 1 เดือนประจำเดือนก็จะมาในช่วง สัปดาห์ที่ 4 ของการฉีดยาคุมหรือ 1 สัปดาห์ก่อนฉีดยาคุมเข็มใหม่ครับ

แต่ถ้าหากฉีดยาคุมชนิด 3 เดือน ก็จะมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปนิดกระปรอย หรือทำให้ประจำเดือนขาดหายไปได้ครับ

ทั้งนี้ถ้ามีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

"แล้วประจำเดือนจะมาปกติไหมคะ"

ขึ้นกับชนิดของยาคุมชนิดฉีดที่ผู้ถามใช้ค่ะ

เช่น ถ้าผู้ถามฉีดยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน จะมีผลข้างเคียงเด่น ๆ คือ มีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน ดังนั้น แม้ว่าจะฉีดยาคุมถูกต้องและไม่มีการตั้งครรภ์ แต่ก็อาจไม่มีประจำเดือนมาอันเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมได้นะคะ

แต่ถ้าผู้ถามฉีดยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 1 เดือน ถ้าฉีดถูกต้องและไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนควรจะมาในสัปดาห์ที่ 4 ของการใช้ หรือประมาณวันที่ 22 - 28 นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มล่าสุดค่ะ