March 11, 2020 12:19
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การฉีดยาคุมกำเนิดชนิด 3 เกือนนั้นจะอนุโลมให้ฉีดยาคุมช้ากว่ากำหนดได้ไม่เกิน 16 สัปดาห์นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มสุดท้าย โดยที่ในระหว่างนี้ยาคุมก็จะยังมีผลป้องกันการตั้งครรภ์อยู่ครับ สำหรับในกรณีนี้ก็คือควรไปฉีดยาคุมอย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 18 มีนาคมครับ
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมานั้นยังถือว่าปลอดภัยจากการตั้งครรภ์อยู่โดยจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.2-6% ตามประสิทธิภาพของยาคุมแบบฉีด แต่หมอก็แนะนำว่าควรไปฉีดยาคุมเข็มใหม่ให้เร็วที่สุดเพื่อให้มีความต่อเนื่องในการคุมกำเนิดครับ
ทั้งนี้ถ้าหากต้องการความมั่นใจเรื่องการตั้งครรภ์จริงๆ หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งคราภ์ดูเมื่อตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.ถ้าอ้างอิงตามแนวทางของค์การอนามัยโลก ปี ค.ศ.2016 จะแนะนำให้ฉีดยาคุมชนิด 3 เดือนทุก ๆ 12 สัปดาห์ หรือฉีดช้ากว่ากำหนดดังกล่าวได้ไม่เกิน 4 สัปดาห์ แต่รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 16 สัปดาห์นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มสุดท้ายครับ ดังนั้นถ้าเกินกำหนดมา21วัน ตามหลักการเเล้วยาจะยังพอคุมกำเนิดได้ครับ ดังนั้นสามารถไปฉีดต่อได้ (เเต่หมอบางท่านอาจจะไม่ฉีดให้ เพราะ กังวลว่าจะมีความเสี่ยงจะท้องครับ ก็จะให้รอจนชัวร์ว่าไม่ท้องก่อน ถึงจะคุมกำเนิดต่อครับ)
2.ถ้ามีเพศสัมพันธ์ล่าสุด 9มีค เเนะนำตรวจอีกที ที่14วันถัดไปครับ
คนที่ท้องอาการคือ ประจำเดือนขาดโดยที่ก่อนหน้ามีประวัติเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกันครับ เเต่ถ้าฉีดยาคุมรายสามเดือนไป ก็ดูไม่ได้ครับ เพราะประจำเดือนจะมาไม่ตรงได้อยู่เเล้ว
ร่วมกับอาการไม่จำเพาะอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารเดิมๆ คัดเต้านม เป็นต้นครับ จะยืนยันก็ต้องตรวจการตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ แต่ที่หนูมีอาการที่บอกไปคือยังไม่เสี่ยงใช่มั้ยค่ะ แล้วหนูต้องตรวจอีกครั้งคือวันที่ 23 มีนาคม ใช่มั้ยค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ใช่ครับ อาการข้างต้นยังไม่ได้บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ แต่ก็ควรรีบไปฉีดยาคุมต่อให้เร็วที่สุดก่อนเพื่อให้มีความปลอดภัยจากการตั้งครรภ์มากที่สุดครับ และก็คสรตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันอีกครั้งในวันที่ 23 มีนาคมซึ่งห่างขากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 14 วันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คุณหมอ หนูมีอาการปวดหัวเมาหัวพะอืดพะอมอยากอาเจียน ปวดเมื่อยตามต้ว อืดท้อง ปวดท้องหน่วงๆฉี่บ่อยมากวันนึงไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง มา 5-6 วันแล้วค่ะ หนูจะเป็นอะไรมั้ยค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ คือ หนูเลยกำหนดฉีดยาคุมมา 21 วันแล้วค่ะ หนูฉีดแบบ 3 เดือน วันนัดฉีดคือ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ฉีดครั้งล่าสุดคือ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 แล้วหนูพึ่งมีอาการดังนี้มา 3-4 วัน คือหนูมีอาการง่วงนอนบ่อย อ่อนเพลีย เหนื่อง่าย บางครั้งเพลียจนหน้ามืด ปวดฉี่บ่อยแบบปวดจนทนไม่ไหวแต่ฉี่ก็ไม่ได้เยอะมาก คัดนมนิดๆหน่อยๆมีน้ำนมไหลเป็นสีข้นค่ะ แต่หนูซื้อที่ตรวจมาพึ่งตรวจไปเมื่อเช้าขึ้นขีดเดียว หนูมีอะไรกับแฟนแต่หลั่งนอกตลอด มีอะไรกับแฟนครั้งล่าสุด คือวันที่ 9 มีนาคม 2563 จะมีโอกาสท้องมั้ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)