สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันมีอาการปวดหัวข้างขวามาเบ้าตา จะปวดเป็นเวลาคะ ตั้งแต่8โมงเช้า แต่ช่วงเที่ยงๆจะหายเป็นปกติ ปวดอีกทีช่วงกลางคืนแต่ไม่มากเหมือนช่วงเช้า ดิฉันต้องกินยา พาราเซตามอลมาเป็นอาทิตย์แล้วคะกินก็ไม่ได้บรรเทาอาการปวดเลย บางวันนอนร้องไห้เลยคะ เพราะมันปวดมาก อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีอาการปวดศีรษะรุนแรงและรับประทานยาพาราเซตามอลแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- โรคไมเกรน จะทำให้มีอาการปวดศีรษะข้างเดียว ปวดตุ้บๆ อย่างรุนแรง อาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย และการได้ยินเสียงดังหรือเห๋นแสงสว่างอาจกระตุ้นให้มีอาการมากขึ้น
- อยากปวดศีรษะแบบเป็นชุด (Cluster headache) จะทำให้มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงเฉียบพลันเป็นๆหายๆ และอาจมีอาการตาแดง มีน้ำตาไหล น้ำมูกไหลร่วมด้วย
- ความผิดปกติภายในสมองบางอย่าง
เป็นต้น

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

สวัสดีค่ะ

จากประวัติมีอาการปวดศีรษะมาก ปวดข้างขวามาเบ้าตา ทานยาแก้ปวดก็ไม่บรรเทาอาการ กรณีนี้หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจค่ะ เนื่องจากสาเหตุอาการปวดศีรษะอาจเกิดมาจากตั้งแต่ไม่รุนแรงจนไปถึงสาเหตุที่รุนแรงที่เกิดจากภายในสมองได้ค่ะ

สำหรับสาเหตุการปวดศีรษะที่เกิดจากโรค เช่น
-ปวดศีรษะจากการติดเชื้อ จากไข้
-จากความดันในสมองสูง เช่น ในโรคหลอดเลือดสมอง โรคเนื้องอกสมอง โรคมะเร็งสมอง
-หลอดเลือดบริเวณศีรษะอักเสบ
-จากสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น ต้อหิน
-จากโรคทางจิตเวช

กรณีที่ตรวจร่างกายแล้วปกติ ก็อาจคิดถึงอาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ได้เกิดจากโรค เช่น
-ปวดศีรษะไมเกรน มักปวดตุ๊บๆข้างเดียว มักทนแสงจ้าไม่ได้ อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน
-ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อ มักปวดศีรษะทั้งสองข้าง โดยอาการปวดมักไม่รุนแรง เกิดจากนอนไม่หลับ หิว เครียด ใช้สายตา ขาดน้ำ หรือ อดกาแฟ
-ปวดศีรษะคลัสเตอร์ มักปวดศีรษะด้านเดียวร่วมกับปวดตา ตาแดง น้ำตาไหล