สวัสดีดีค่ะคุณหมอ ขออนุญาตถามนะคะ คือมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบป้องกันด้วยถุงยางทุกครั้ง เช็คทุกครั้งถุงยางก็ไม่รั่วค่ะ แต่คือเดือนนี้ประจำเดือนยังไม่มาอะค่ะ เดือนที่แล้วเป็นประจำเดือนวันที่5/2/63หมดในวันที่9/2/63ค่ะ วันนี้วันที่10/3/63แล้วประจำเดือนยังไม่มาเลย แต่ก็มีอาการเจ็บเต้านม มีตกขาว มีสิวขึ้นนะคะ ถือว่าปกติหรือเปล่าคะ? มีโอกาสท้องมั้ยคะ? ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากได้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันอย่างถูกต้องแล้วก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
เป็นต้น
ซึ่งถ้าเป็นในกรณีนี้ก็สามารถรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

สวัสดีค่ะ

ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกต้อง ตรวจสอบหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วพบว่าไม่มีการรั่วหรือขาด โอกาสการตั้งครรภ์ก็จะมีเพียงประมาณ 2%ค่ะ กรณีที่ประจำเดือนขาด หรือมีเพศสัมพันธ์ผ่านมาแล้ว 14 วัน สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ โดยให้ตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประจำเดือนขาดได้ เช่น ฮอร์โมนแปรปรวนหรือไม่มีการตกไข่ ความเครียด ฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ ออกกำลังกายหักโหม เนื้องอก หรือการเจ็บป่วยอื่นๆ เป็นต้น และถ้าตรวจแล้วไม่พบว่าตั้งครรภ์และประจำเดือนขาดนานเกิน 3 เดือนให้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ ส่วนอาการเจ็บเต้านม ตกขาว สิวขึ้น ไม่ใช่อาการจำเพาะค่ะ อาจเป็นอาการก่อนประจำเดือนหรืออาการตั้งครรภ์หรืออาการอื่นๆได้ค่ะ