สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูมีคำถามเหมือนคำถามในรูปเลย ก็คือแฟนมีเชื้อ hsv1 แต่อยากทราบว่าตอนที่แฟนไม่มีอาการสามารถจูบหรือมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติมั้ย แต่เห็นคุณหมอในรูปตอบว่า "ไม่แนะนำ ควรรักษาเชื้อให้หายก่อน" หนูอยากทราบว่า"หาย" ในความหมายของคุณหมอคือยังไงคะ? เพราะโรคเริมมันไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และไม่มีอาการแล้ว ก็ยังต้องรักษาเชื้อให้หายหรอคะ? ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ😊

โรคเริมสามารถติดต่อกันได้โดยเฉพาะในช่วงที่มีอาการเช่นมีตุ่มน้ำใสหรือยังมีสะเก็ดที่ยังหลุดไม่หมดจึงแนะนำให้รักษาให้อาการในแต่ละรอบหายดีก่อน

สวัสดีครับ
โรคเริมเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ครับ เพราะในช่วงที่ตุ่มน้ำของเริมหายไปตัวเชื้อก็จะเข้าไปหลบซ่อนในปมประสาทอยู่ดีและอาจกลับมาแสดงอาการใหม่เมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลงครับ

หลักการสำคัญเกี่ยวกับการติดเชื้อของเริมคือเชื้อจะมีโอกาสติดเชื้อได้สูงที่สุดในช่วงที่มีอาการ เช่น แสบร้อนบริเวณที่ตุ่มขึ้น มีตุ่มน้ำขึ้น ถ้าเป็นช่วงนี้ก็ควรงดการจูบอย่างเด็ดขาดครับ แต่ถ้าหากตุ่มน้ำหายไปแล้วก็สามารถจูบได้ครับ โดยที่ถึงแม้จะไม่ได้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ 100% แต่โอกาสติดเชื้อในช่วงนี้ก็ต่ำมากๆครับ

โดยทั่วไป สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ หากไม่ได้มีรอยโรคครับ (คือไม่ได้มีตุ่มใสๆหลายๆตุ่ม ที่เป็นลักษณะของเริมน่ะครับ)

เริม หลักๆจะติดต่อทางการสัมผัสครับ
กรณีในช่วงที่เป็นโรค แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการแกะเกา แนะนำให้คนใกล้ตัวหลีกเลี่ยงการสัมผัสผื่นแผล ในขณะที่มีตุ่มพองครับ

และหาเวลาไปพบเเพทย์ครับ ถ้าให้ดี ภายใน48ชั่วโมงครับ เพราะหลังจากนั้นยาต้านไวรัสAcyclovir จะได้ประโยชน์น้อยครับ (ถ้าดูแลร่างกาย นอนพักผ่อนเพียงพอ ในคนที่ภูมิคุ้มกันปกติ จะหายเองได้ครับ)

โรคเริมถ้าติดแล้วจะไม่หายขาด สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ใหม่
บางครั้งอาจเป็นซ้ำได้ถึงปีละ 3 ครั้ง แต่จะค่อย ๆ ลดไปเมื่ออายุสูงขึ้น โดยเริมที่ริมฝีปากจะมีอัตราการเกิดเป็นซ้ำประมาณ 20-40% ส่วนเริมที่อวัยวะเพศจะมีอัตราการเกิดเป็นซ้ำประมาณ 80% ซึ่งการเกิดเป็นซ้ำนี้จะมีอาการน้อยกว่า หายเร็วกว่าการเกิดเป็นครั้งแรกครับ