คุณหมอคะพอดีเมื่อเดือนที่แล้วหนูกินยาคุมฉุกเฉินไปและหลังจากนั้น1สัปดาห์มีเลือดเหมือนประจำเดือนออกมาค่ะ และพอหมดกินยาคุมฉุกเฉินซ้ำอีก พอผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ก็มีเลือดเหมือนประจำเดือนออกมาเช่นเดิมค่ะ แต่พอเดือนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ ไม่ทราบว่าจะตั้งครรภ์มั้ยคะ กลัวมากๆค่ะ

ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดปกติ แม้จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินครบขนาดและทันเวลาก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% จึงควรใช้ในกรณีที่จำเป็นฉุกเฉิน เช่น ถูกข่มขืน หรือเมื่อเกิดความผิดพลาดจากวิธีคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ เช่น ถุงยางฉีกขาด

ไม่ควรนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้เพียงเพราะไม่อยากใส่ถุงยาง หรือนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เพราะมีความเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นนะคะ

ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งหรือเลื่อนประจำเดือนค่ะ ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้าผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ หรือถ้าไม่มั่นใจ และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

สวัสดีครับ
หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกระหว่างรอบเดือนได้ครับ เลือดที่ออกมาติดต่อกันนั้นจึงอาจจะยังไม่ใช่ประจำเดือนได้ และหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25%

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็จะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

1.การกินยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ดี ดังนั้นมีโอกาสหลุดท้องครับ
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ

2. ยาคุมฉุกเฉินใช้สำหรับลดโอกาสตั้งครรภ์ในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งก่อนหน้าที่จะกินเท่านั้นครับ หากมีเพศสัมพันธ์อีกหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน

ก็เริ่มยาคุมฉุกเฉินแผงใหม่ได้ครับแต่อาจเพิ่มอาการข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม เลือดประจำเดือนแปรปรวน หรือมีเลือดออกผิดปกติ

3. เลือดที่ออก เป็นผลจากยาคุมฉุกเฉินได้ครับ หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา ก็มีโอกาสหลุดท้องครับ
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ

หากต้องการรีบตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ
ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องคือประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ

..