มีอาการท้องผูกค่ะ และปวดท้องเป็นพักๆค่ะ พอได้ถ่ายอาการก็จะดีขึ้นแต่ยังไม่หายปวดท้องค่ะ แต่ความถี่ของการปวดท้องจะห่างขึ้นเรื่อยๆ เป็นมาสักประมาณ 1 อาทิตย์แล้วค่ะ และมีอาการปวดหลังตั้งแต่ช่วงอกลงมา ถ่ายปัสสาวะบ่อยถ้าอั้นจะรู้สึกปวดท้องน้อยนิดๆ ปกติจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบอยู่แล้วค่ะ จะปวดหลังเฉพาะช่วงเอว แต่ตอนนี้ปวดหลังตั้งแต่ข้างบนลงมา อยากทราบว่าจะเป็นอะไรมากหรือป่าวค่ะ และตอนนี้มีอาการไอเป็นบางครั้งด้วยค่ะเป็นมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว เวลาลมเข้าคอหรือหายใจลึกๆจะรู้สึกคันคอแล้วจะไอออกมา ไปหาหมอหมอบอกเป็นหลอดลมอักเสบให้ยามากินอาทิตย์นึงแล้วแต่ยังไม่หายเลยค่ะ

สวัสดีครับ
จากที่เล่ามานั้นมีอาการอยู่ในหลายส่วนซึ่วก็ยังไม่ได้มีความจำเพาะกับสาเหตุใดเป็นพิเศษนะครับ

อาการปวดท้องนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ผลจากอาการท้องผูก ซึ่งก็จะสัมพันธ์กับกทรที่ถ่ายอุจจาระออกมาแล้วมีอาการดีขึ้นตามที่เล่ามา
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาจเป็นสาเหตุให้มีอาการปวดท้องได้เช่นกัน โดยอาการปวดท้องจะอยู่ที่บริเวณเหนือหัวเหน่าเป็นหลัก
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ ในกรณีนี้จะทำให้มีอาการเลือดออกและมีตกขาวผิดปกติร่วมด้วย

อาการปวดหลังอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การปวดเกร็งของกล้ามเนื้อหลัง
- ความผิดปกติของกระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูกที่มากดทับเส้นประสาท ในกรณีนี้มักทำให้มีอาการปวดร้าวลงมาตามขาด้วย
- มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนบน จะทำให้มีไข้สูงหนาวสั่น ปวดเอว ปัสสาวะแสบขัด อาการมักลุกลามขึ้นมาจากรณีที่มีกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

อาการไอคันคอก็อาจเป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อในทางเดินหายใจ เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือจากสาเหตุอื่นๆ เช่น กรดไหลย้อน โรคภูมิแพ้ได้ครับ

การที่จะทราบสาเหตุของอาการเหล่านี้ได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยการตรวจร่างกายโดยแพทย์ก่อน

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ