February 05, 2020 20:48
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้ามีประจำเดือนมาในช่วงที่ใช้เม็ดแป้งของแผงเดิม และต่อยาคุมแผงนี้ตรงตามกำหนด ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวันนะคะ
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การที่รับประทานผิดดังที่กล่าวมา ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องและมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ โอกาสตั้งครรภ์คือ 0.3 - 9% ตามผลป้องกันปกติของยาคุมรายเดือนนั่นเองนะคะ
เมื่อมีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือนอยู่จึงไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินค่ะ
วันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปก็ให้แกะเม็ดยามาใช้วันละเม็ดตามปกติเหมือนเดิมไปจนกว่าจะหมดแผงนะคะ
อย่างไรก็ตาม อาจพบปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอย, คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ในไม่กี่วันหลังจากนี้ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ค่ะ และเมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานยาคุมถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ผู้ถามอาจมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่า (แต่ยังอยู่ในช่วง 0.3 - 9% นั่นเอง)
ดังนั้น ควรรับประทานยาคุมต่อให้ถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ โดยตรวจสอบ "ตัวย่อของวันในสัปดาห์" ที่ระบุไว้ใน "แถบช่วยจำ" ทุกครั้งก่อนที่จะแกะยามารับประทาน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและรับประทานผิดเช่นนี้อีกนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
สวัสดีค่า หนูทานยาคุม28เม็ด ของยาสมาได้ประมาณปีนึงแล้ว ตรงเวลาตลอด เคยลืมแค่วันเดียว จนกระทั่งวันนี้หนูมาทานเป็นเม็ดที่5ของแผง(ยาเริ่มวันเสาร์) เลยเพิ่งสังเกตุว่ายาเป็นเม็ดของวันอังคาร ทั้งๆที่วันนี้วันพุธ จำกันได้ทั้งหนูและแฟนว่าเมื่อวานทานไปแล้วจริงๆ สุดท้ายเมื่อกี๊ก็ทานไปทั้ง2เม็ด แล้วเพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าเมื่อวันอาทิตย์หนูลืมทาน เท่ากับว่า -วันเสาร์ทานเม็ดแรกของแผง -วันอาทิตย์หนูลืมทาน -วันจันทร์ทาน1เม็ด(ของวันอาทิตย์) -วันอังคารทาน1เม็ด(ของวันเสาร์)(มีอะไรกับแฟนวันนี้ค่ะ) -วันนี้ทาน2เม็ด อยากทราบว่ามีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ หรือต้องทานยาฉุกเฉิน หรือต้องทำอย่างไรบ้างคะ ขอบคุณมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)