สอบถามค่ะ มีเพศสัมพันธ์ไปเมื่อเดือนที่เเล้วตอนประจำเดือนหมดได้2 วันไม่ได้ใส่ถุง แล้วเราก้เลยไปกินยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้ เเต่ประจำเดือนมาตรงรอบนี่ไม่ท้องใช่ไหมคะ ก้มีประจำเดือนอีกรอบตอน1อาทิตย์ต่อมา ละเดือนกุมภานี่ประจำเดือนยังไม่มาปกติจะมาวันที่17กุมภาเเต่มันเคลื่อนไปจะเสี่ยงท้องไหมคะ แต่เวลามีเพศสัมพันธ์ใส่ถุงทุกครั้งมีหลังเป็นประจำเดือนครั้งเดียวที่ไม่ได้ใส่

ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือนค่ะ หากไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันนะคะ ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทานเป็นเพียงแค่ผลข้างเคียงจากยาค่ะ ไม่ได้สำคัญอะไร

ดังนั้น "ประจำเดือนอีกรอบตอน 1 อาทิตย์ต่อมา" ที่ผู้ถามกล่าวมานั้น ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินนั่นเองนะคะ ยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์ค่ะ

ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่สูงนัก แม้จะรับประทานเร็วและครบขนาดก็ยังอาจมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ค่ะ ต่อไปจึงไม่ควรนำมาใช้แทนการใส่ถุงยางอนามัยนะคะ

ถ้าผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือถ้ากังวลว่าอาจตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

สวัสดีครับ
การมีเลือดออก 1 อาทิตย์ต่อมาหลังจากทานยาคุมแบบฉุกเฉินอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมแบบฉุกเฉินได้ครับ เลือดที่ออกมานั้นไม่ใช่ประจำเดือน และไม่ได้บ่งบอกว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์ครับ ดังนั้นในกรณีนี้จึงแนะนำให้ลองทดสอบการตั้งครรภ์ดูก่อน หากเกิน 14 วันหลังการมีเพศสัมพันธ์แล้วการทดสอบจะทำให้ทราบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ครับ หากทดสอบการตั้งครรภ์แล้วไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์ การขาดประจำเดือนอาจเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ เช่น ความเครียด ไข่ไม่ตก ฮอร์โมนเพศผิดปกติ มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ เป็นต้น ถ้าประจำเดือนขาดเกิน 3 เดือน แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ

1.ถ้าจะยืนยันก็ต้องตรวจการตั้งครรภ์ครับ ถ้าผ่านมาเป็นเดือน เเล้วตรวจตอนนี้ ขึ้นขีดเดียวก็เเสดงว่าไม่ท้องครับ

2.โอกาสท้องขึ้นกับ วันที่มีเพศสัมพันธ์ เเละ เวลาในการกินยาคุมฉุกเฉินครับ

ถ้าเดิมประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เเล้วมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อน7วันจนถึงหลัง7วันนับจากประจำเดือนมาวันเเรก เป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องจะน้อยมากครับ
เเละ
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ

กรณีคนไข้หมอว่าโอกาสท้องน้อยนะครับ

3. หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์ ครับ

ดังนั้นประจำเดือนอาจเคลื่อนได้ จึงเเนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
ถ้าผลไม่ท้อง หรือประจำเดือนมาเเล้ว ก็พิจารณาคุมกำเนิดอื่นๆต่อไป เช่น ยาคุมกำเนิดเเบบกิน ฉีด หรือฝังครับ

การรับประทานเร็วมีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ที่ล่าช้าค่ะ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงเหมือนกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐาน แม้จะใช้เร็วและครบขนาดก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15%

ดังนั้น ถ้าผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนตามที่แนะนำไปข้างต้นนะคะ

และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าผู้ถามไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ควรให้แฟนใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะถ้าใช้ถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ