February 03, 2020 21:59
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา ก็มีโอกาสหลุดท้องครับ
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
ดังนั้นอาการปวดท้องน้อยอาจเกิดจากเลือดทที่เป็นผลของยาคุมฉุกเฉินไหลออกมาไม่ทัน หรือออกมาไม่สะดวกจึงทำให้เกิดเลือดคั่งในโพรงมดลูก
กล้ามเนื้อมดลูกจึงพยายามบีบรัดตัวเพื่อเป็นการขับเลือดออกมา ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณท้องน้อยหรือปวดหลังได้ครับ
อาการปวดท้องน้อย เป็นได้ตั้งเเต่
- ท้องนอกมดลูก ภาวะเเท้ง พวกนี้ต้องมีปวดท้องน้อย ร่วมกับมีเลือดออกทางช่องคลอดครับ เเละก่อนหน้านี้มีประวัติสงสัยท้อง เช่น มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกัน ประจำเดือนขาด เเล้ววันนี้มีปวดท้อง+เลือดออกทางช่องคลอดครับ
- ติดชื้อในอุ้งเชิงกราน คือ มีตกขาวกลิ่นเหม็น คันช่องคลอดมาก่อน เเล้วมีอาการปวดท้องน้อย มีไข้
- ปวดท้องมากเวลาประจำเดือนมา ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ อาจเป็น เนื้อเยื่อมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกแลตซีสต์)
- โรคซีสต์ในรังไข่บางชนิด ก็ปวดท้องน้อยได้ครับ
- ติดเชื้อทางเดินอาหารส่วนลำไส้ มักมีถ่ายเหลว คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องได้
- ติดเชื้อกระเพาะปัสสาวะ คือมีอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะเเสบขัด ปัสสาวะบ่อย
- ปวดกล้ามเนื้อ คือ มีขยับเเล้วปวด สัมพันธ์กับท่าทาง ก่อนหน้ามีประวัติ ยกของหนัก ขยับผิดท่า หรือโดนกระเเทก ครับ
ถ้าไม่มีประวัติเเพ้ยาเเนะนำปรึกษาเภสัชกร กินยาแก้ปวดลดอักเสบกลุ่มNSAID เช่น Ibuprofen Celebrex Naproxen เป็นต้นครับ หรือถ้าไม่ปวดมาก กินยาParacetamolได้ครับ
กรณีปวดมากหรือมีอาการสงสัยภาวะท้องนอกมดลูกดังกล่าวเเนะนำหาเวลาพบเเพทย์ครับ เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการปวดท้องนั้นอาจเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุนอกเหนือจากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ โดยเฉพาะถ้าอกทรปวดท้องเพิ่งเริ่มเป็นหลังจากการรับประทานยาคุมไป 1 สัปดาห์แล้วก็จะต้องคิดถึงสาเหตุอื่นๆเอาไว้ด้วย เช่น
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ปีกมดลูกอักเสบ
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ
- อาการนำก่อนประจำเดือนจะมา
- ลำไส้อักเสบ
เป็นต้น
ถ้าหากอาการปวดท้องรุนแรงมากหรือปวดติดต่อกันหลายวัน หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วถ้ามีอาการคะดเต้านม แล้วปวดท้องน้อยด้านขวาแต่ไม่มีเลือดกระปริกระปรอย มีโอกาสท้องนอกมดลูกมั้ยคะ หรือเป็นแค่อาการก่อนประจำเดือนมา เพราะนี่ก็จะถึงวันที่ประจำเดือนมาแล้วด้วย
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าอยูในช่วงที่ประจำเดือนใกล้มาแล้ว อาการเจ็บคัดตึงเต้านมและปวดท้องน้อยก็อาจเป็นอาการนำก่อนการมีประจำเดือนได้ครับ และอาการนี้ก็ไม่ได้บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์นอกมดลูกครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนและถ้าหากเลยกำหนดที่ประจำเดือนควรมาแล้วประจำเดือนไม่มา หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือมีอาการปวดท้องน้อยแปล๊บๆเป็นช่วงๆแต่ไม่รุนแรงมากหลังจากกินยาคุมฉุกเฉินวันที่23,24 แล้วประมาน1อาทิตย์ต่อมาเริ่มปวดท้องน้อยเป็นอาการปกติหรือป่าวคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)