December 31, 2019 12:06
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้ากินต่อเนื่องมา14วัน เเละตอนเริ่มกินนั้น ชัวร์ว่าไม่ได้ท้องอยู่ตั้งเเต่เรก ยามีฤทธิ์คุมกำเนิดเเล้วครับ สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ โอกาสท้องเเทบไม่มีครับ
เลือดที่ออก เป็นได้จากการมีเพศสัมพันธ์ทำให้มีเเผลที่ช่องคลอด หรือกินยาคุมไม่ตรงเวลาทำให้มีเลือดออกกะรปริบกระปรอยจากระดับฮอร์โมนที่ไม่สม่ำเสมอครับ
ถ้าประจำเดือนน่าจะต้องกินถึงหลังเม็ดที่21เป็นต้นไปมากกว่าครับ
เบื้องต้นแนะนำให้สังเกตอาการต่อถ้าเลือดออกเเค่กระปริบกระปรอย
ให้พยายามกินยาให้ตรงเวลาเพื่อความคงที่ของฮอร์โมนครับ
ถ้าเลือดไหลไม่มากเเล้ว ก็อาจจะเป็นเลือดที่ค้างอยู่ในมดลูกมีเยอะ
หากยังมีเลือดออกจากช่องคลอดอยู่เรื่อยๆ เป็นสัปดาห์ๆ ควรสงสัยว่ามีสาเหตุอื่นหรือไม่ เเนะนำให้ไปตรวจภายในที่เเผนกสูตินรีเวชเพิ่มเติมครับ
แต่ถ้าตอนนี้ออกมากชุ่มผ้าอนามัยสี่ห้าเเผ่น มีหน้ามืดอ่อนเพลียมาก ปวดท้องน้อยมากเเนะนำให้พบเเพทย์โดยเร็วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากรับประทานยาคุมต่อเนื่องกันมาแล้วเกิน 7 วันยาคุมก็จะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่แล้วครับ ทำให้การมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-9% เท่านั้นครับ
ส่วนเลือดที่ออกมานั้นไม่น่าใช่ประจำเดือนครับ แต่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- เป็นผลข้างเคียงที่เกิดจารกการรับประทานยาคุม 1-3 แผงแรก
- มีการบาดเจ็บในช่องคลอดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกบางอย่าง
เป็นต้น
ถ้าเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ออกมาติดต่อกันหลายวัน หรือมีอาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยๆ ก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ
ส่วนประจำเดือนในช่วงที่รับประทานยาคุทอยู่จะมาในช่วงเวลาดังนี้ครับ
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่เว้นการรับประทานยา 7 วันก่อนเริ่มรับประทานยาแผง
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ด ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดแป้ง 4-7 เม็ดสุดท้ายของแผง ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของยาคุม
ถ้าหากประจำเดือนมาในช่วงเวลานี้ก็จะเป็นการยืนยันได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. มีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่
หากเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ แต่ถ้าไม่ได้เริ่มทันเวลาดังกล่าว ก็จะต้องรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้
ในกรณีของผู้ถาม ไม่ว่าจะเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่เมื่อใช้ต่อเนื่องกันมามากถึง 14 วันแล้วจึงค่อยมีเพศสัมพันธ์ ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแล้วค่ะ
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จึงสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ
2. เลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนหรือไม่
ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนของผู้ที่ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมจะมาในช่วงปลอดฮอร์โมนค่ะ ซึ่งก็คือหลังจากที่ใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ดหมดและต้องเว้น 7 วันก่อนต่อแผงใหม่ หรือเป็นช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งของยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ดนั่นเองนะคะ
ซึ่งประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ
ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่พบในช่วงที่ยังรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนในแผงอยู่ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ซึ่งอาจพบในช่วงแรก ๆ ของการใช้ (1 - 3 แผงแรก) หรือเมื่อรับประทานไม่ตรงเวลา
แต่ถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด, ปวดท้องรุนแรง หรือมีเลือดออกมาทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
-หากทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องไม่ขาดยา ลืมทานยา หรือ ทานยาไม่ตรงเวลา นานกว่า3ชั่วโมง ยาจะคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงสุด ที่ประมาณ97-99% ครับ
-เลือดที่ออกมาอาจเป็นประจำเดือน หากครบรอบเดือนแล้ว หรืออาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด หรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บช่องคลอดและมดลูกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจเกิดจาก สาเหตุอื่นๆ เช่น
-เนื้องอกที่มดลูก เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ซีสต์ที่รังไข่ เป็นต้น
-ฉะนั้น ควรตรวจการตั้งครรภ์ถ้าหากประจำเดือนมาช้ากว่าปกติเกิน7วันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
กินยาคุมมาแล้ว14วันแล้วมีเพศสัมพันธ์กับแฟนสดแต่หลังนอกมีโอกาศท้องไหมค่ะแล้วหลังมีเพศสัมพันธ์มีเลือดออกคล้ายๆประจำเดือนมันสามารถเป็นประจำเดือนได้ไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)